ตำรวจกองปราบ จับอดีตทหาร ร่วมแก๊งหลอกตุ๋นเงินเหยื่อ อ้างฝากเข้ารับราชการทหาร สูญเงินกว่า 6 ล้านบาท เบื้องต้นให้การปฏิเสธ อ้างว่าถูกเอาชื่อไปแอบอ้างกับผู้เสียหาย
วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รรท.ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ต.เอนก บุญตา สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายทศพล มาลินันท์ หรือ สิบเอกทศพล มาลินันท์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1728/2561 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2561 ในข้อหา “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณริมถนนพหลโยธิน ต.หนองนาก อ.หนองแค จ.สระบุรี
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายทศพล ผู้ต้องหา มีพฤติการณ์ร่วมกับพวกก่อเหตุหลอกลวงเอาเงินจากผู้เสียหายหลายราย โดยทำทีชักชวนผู้เสียหายว่ามีการเปิดคัดเลือกสรรหาบุคคลเข้ารับราชการแทนผู้เกษียณอายุราชการทหารระดับชั้นประทวนและชั้นสัญญาบัตร ก่อนจะอ้างว่ามีเส้นสายรู้จักกับนายทหารระดับสูงหลายคน ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ที่สนใจสามารถผ่านการคัดเลือกรับราชการทหารได้ แต่ต้องจ่ายเงินให้เป็นค่าดำเนินการประมาณ 4-5 แสนบาทต่อคนขึ้นอยู่กับยศตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นเมื่อมีผู้สนใจก็จะนัดเจรจาข้อตกลงกันตามค่ายทหารต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จนมีผู้หลงเชื่อหลายรายตกเป็นเหยื่อ ยอมจ่ายเงินให้กับผู้ต้องหากลุ่มนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ จังหวัดสกลนคร จ.นครพนม จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด และจังหวัดนครราชสีมา รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท
ทั้งนี้ หลังจากทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ลงพื้นที่สืบหาเบาะแสจนทราบว่า ผู้ร่วมก่อเหตุนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 4 คน และได้ออกหมายจับและติดตามจับกุมไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 ราย ล่าสุดได้สืบทราบว่า นายทศพล หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีอยู่นั้นปัจจุบันได้มาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.สระบุรี จึงนำกำลังไปติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว จึงคงเหลือผู้ต้องหาที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนีอีกเพียง 1 ราย
จากการสอบสวน นายทศพล ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับคดีดังกล่าวแต่อย่างใด เพียงแต่ที่ผ่านมากลุ่มขบวนการดังกล่าวมักนำชื่อของตนไปแอบอ้างกับทางผู้เสียหายเพราะเห็นว่าตนเคยรับราชการทหารอยู่ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี มาก่อน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จึงทำให้ตนต้องกลายมาเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวนี้ด้วย ส่วนกรณีที่ต้องออกจากราชการนั้นเนื่องจากตนได้ขาดราชการเกินกว่าเวลาที่กำหนดไม่เกี่ยวข้องกับทางคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายพร้อมกับขยายผลติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 1 รายต่อไป