รุมสาปแช่งระนาว! ความคืบหน้าหลังจาก นายนำพล เวียงชัย สามีคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้าและหึงหวง ใช้อาวุธปืนจ่อยิง น.ส.เตือนตา กระดังงา อดีตภรรยาซึ่งเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลสระกะเทียม อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อคืนวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา แต่เมื่อเย็นวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมได้ที่จังหวัดราชบุรี และในวันนี้นำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านพักจุดเกิดเหตุ งานนี้บรรดาญาติ ๆ และชาวบ้านรุมตะโกนสาปแช่งหวังรุมประชาทัณฑ์
บรรดาชาวบ้านและญาติ ๆ ของ น.ส.เตือนตา กระดังงา ด่าทอรุมสาปแช่งระนาวหวังประชาทัณฑ์ นายนำพล เวียงชัย ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจ่อยิง น.ส.เตือนตา ซึ่งเป็นอดีตภรรยาเสียชีวิตในบ้านพัก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องคุ้มครองผู้ต้องหาอย่างรัดกุม โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม นำตัว นายนำพล ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในบ้านพักที่เกิดเหตุพื้นที่หมู่ 12 ต.สระกะเทียม อำเภอเมืองนครปฐม จ.นครปฐม แต่เมื่อไปถึงซึ่งจัดงานศพของ น.ส.เตือนตา ผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บรรดาญาติ ๆ ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ ในขณะเดียวกัน ชาวบ้านจำนวนมากเมื่อทราบข่าวว่าจะมีการทำแผน เดินทางมายังจุดเกิดเหตุพร้อมด่าทอสาปแช่งจนเกิดการชุลมุน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ มาควบคุมสถานการณ์พร้อมกั้นผู้ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด
จากนั้นได้นำตัว นายนำพล ไปทำแผนภายในบ้านใช้เวลากว่า 15 นาที เริ่มจาก นายนำพล เดินเข้ามาในบ้านและทุบกระจกหน้าต่างเข้ามา ก่อนเข้าไปยังห้องนอนของ น.ส.เตือนตา แล้วลากผู้เสียชีวิตออกมาจากห้องนอนแล้วชักอาวุธปืน .38 จ่อยิงใส่ศีรษะของ น.ส.เตือนตา เสียชีวิตกลางบ้าน ซึ่งหลังก่อเหตุ นายนำพล เดินหลบหนีเข้าไปในป่ารกเขตตำบลสระกะเทียม ซึ่งช่วงเกิดเหตุเป็นเวลา 22.30 น. ภายในบ้านยังมีพี่สาวของผู้ตายและหลานชายอายุ 10 ขวบ ซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดว่า นายนำพล เป็นคนที่ลาก น.ส.เตือนตา ออกมาจากห้องแล้วใช้ปืนจ่อยิงเข้าที่ศีรษะ หลังเกิดเหตุแล้วทั้งพี่สาวและหลานชายได้วิ่งหลบหนีเอาชีวิตรอด
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนทั้งตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม กระจายกำลังออกตามหาจนเมื่อช่วงเย็นวานนี้ 20 ม.ค.61 ชาวบ้านแจ้งเบาะแสพบ นายนำพล มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 28/1 หมู่ 7 ตำบลกรับใหญ่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่นำกำลังมายังบ้านดังกล่าวพร้อมกระจายกำลังปิดล้อม เมื่อไปถึงพบว่า นายนำพล ไหวตัววิ่งหลบหนีออกทางประตูหลังบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสามารถติดตามจับกุมวัยได้ห่างจากตัวบ้านเพียง 5 เมตรเท่านั้น พร้อมแสดงหมายจับให้ดู นายนำพล ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง สาเหตุเนื่องมาจากเรื่องครอบครัวและปมหึงหวง โดย นายนำพล กลัวว่า น.ส.เตือนตา อดีตภรรยาจะมีสามีใหม่ ประกอบกับตัวเองมีพฤติกรรมในการเสพยาบ้าจึงทำให้เกิดอาการหลอน คลุ้มมคลั่งและเครียด จึงเข้าก่อเหตุดังกล่าว
และจากการตรวจสอบประวัติของ นายนำพล ทราบว่า ยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม ในข้อหาบุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธในเวลากลางคืนข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด และพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ