สาวใหญ่คนเฝ้าโรงฆ่าสัตว์อยู่กับน้องเลี้ยงสุนัข ถูกมือปืนเจ้าถิ่นยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่สุนัขสุดทรมานไม่ตาย ชี้คุยเจ้าของแพะไม่ลงตัวจากเหตุสุนัขของตนกัดแพะตายแต่ไม่มีเงินชดเชย แจ้งตำรวจวิงวอนขอชิวิตทั้งคนทั้งสุนัขอย่ายิงซ้ำอีกเลย
นางอัจฉรา นงคราญ อายุ 39 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา นั่งดูแลสุนัขเพศเมียที่มีอาการเซื่องซึมและทรมานเนื่องจากถูกมือปืนเจ้าถิ่นใจร้ายยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่สุนัขเพศเมียตัวนี้ยังไม่ตาย ท่ามกลางสุนัขเพศผู้และลูกสุนัขอยู่ใกล้ ๆ บริเวณ โรงฆ่าสัตว์ใกล้กับวัดแม่นางปลื้ม ม.8 ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ นางอัจฉรา ซึ่งเป็นลูกจ้างโรงฆ่าสัตว์และเลี้ยงสุนัขประมาณ 7-8 ตัว บอกว่า เมื่อปลายปีที่ผ่านมา มีชายคนหนึ่งอยู่ในละแวกดังกล่าวเข้ามาบอกว่า สุนัขของตนกัดแพะของเขาจนตายทั้งที่ไม่มีหลักฐาน โดยบอกให้ชดใช้ค่าเสียหายแต่ตนเองไม่มีเงินจึงไม่สามารถชดเชยค่าเสียหายได้ อีกทั้งไม่ทราบว่าสุนัขของตนไปกัดแพะของเขาจริงหรือไม่ ชายคนดังกล่าวเลยบอกว่าจะมายิงสุนัขตายให้หมด หลังจากนั้นในช่วงค่ำวันเดียวกันก็มายิง “เจ้าโอเว่น” สุนัขเพศผู้อายุ 3 ปีกระสุนเข้าที่ท้องได้รับบาดเจ็บแต่มีคนใจบุญช่วยพาไปรักษาจนหาย
และเมื่อวันที่ 4 ม.ค.61 ที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวเข้ามายิง “เจ้ากุด” สุนัขเพศเมียอีกตัวได้รับบาดเจ็บบริเวณขาหน้าข้างซ้าย ตนเองรักษาตามมีตามเกิดโดยใส่ยาให้แต่เนื่องจากกระสุนฝังในทำให้ “เจ้ากุด” ทรมานจากบาดแผลที่ถูกยิงแต่ไม่มีเงินไปรักษา ซึ่งคนที่ยิงบอกว่าจะมายิงอีก เบื้องต้นได้เข้าแจ้งความเอาไว้แล้วที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าจะเรียกตัวคนยิงไปสอบสวนแต่ตนเองก็ไม่สบายใจ จึงอยากวอนขอร้องให้หยุดยิงสุนัขได้แล้วและอย่ามาทำร้ายตนเองอีกเลย
ด้าน นายกฤษณ์ เถี่ยนมิตรภาพ เลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้รับทราบเรื่องความเดือดร้อนของ นางอัจฉรา ลูกจ้างที่โรงฆ่าสัตว์แล้ว โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและประสานกับคนที่ยิงเพื่อหาข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องของการรักษาสุนัข ล่าสุด โรงพยาบาลสัตว์อโยธยา ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา เตรียมที่จะยื่นมือช่วยเหลือสุนัขที่ถูกยิงต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวไบรท์ทีวี ได้ข้อมูลล่าสุดจากผู้สื่อข่าวจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา เรียกเจ้าของสุนัขไปสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว ส่วนเรื่องการรักษาตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานกับทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และมูลนิธิหมา-แมว เพื่อเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น แต่ก็ต้องรอตรวจสอบวิถีกระสุนปืนของผู้ก่อเหตุต่อไป
