รอง ผบ.ตร. เรียกชุดคลี่คลายคดี หารือทำความเห็นแย้ง เสนออัยการภาค7 หลังอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง5ข้อหา นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
จาก 11 ข้อหาที่ตำรวจส่งสำนวนให้อัยการภาค 7 พิจารณาสั่งฟ้อง และอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง 6 ข้อหา และสั่งไม่ฟ้องนายเปรมชัย 5 ข้อหานั้น และวันนี้ ด้านพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้เรียกตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือเพื่อประชุมความเห็นเกี่ยวกับการส่งสำนวนในข้อหาที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง เพื่อให้อัยการพิจารณาใหม่อีกครั้ง ส่วนข้อหาที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง พนักงานสอบสวนมีความเห็นตาม
สำหรับข้อหา ที่อัยการภาค 7 พิจารณาคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ลงความเห็น ไม่สั่งฟ้องนายเปรมชัย และพวก 6 ข้อหา แต่ไม่สั่งฟ้อง นายเปรมชัย 5 ข้อหา ดังนี้
ข้อหาที่ 1.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่สั่งฟ้องเพราะ ข้อหานี้ นายเปรมชัยได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนทั้ง 3 กระบอกตามกฎหมาย เมื่อเขาได้รับอนุญาตให้มีปืนดังกล่าว ก็จะไม่เป็นความผิดทางกฎหมาย
ข้อหาที่ 2.ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่สั่งฟ้องเพราะ เขาได้รับอนุญาตจากหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คือหัวหน้าวิเชียร ชิณวงษ์ให้สามารถเข้าไปได้ ข้อหานี้ตามกฎหมายแล้วกำหนดเป็นความผิด แต่ไม่ได้กำหนดโทษไว้ เพียงแต่มีโทษทางปกครองคือให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ ถ้าเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าก็คือหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า มีอำนาจทางการปกครองเป็นกลาง ที่จะให้ออกจากสถานที่นั้น
เช่นเดียวกับข้อหาที่
3. ร่วมกันมีเครื่องมือสำหรับการล่าสัตว์ป่า ทั้ง 2 ข้อหานี้มีลักษณะอย่างเดียวกัน คือมีบทกฎหมายความผิด แต่ไม่ได้กำหนดโทษไว้ อย่างเช่น จำคุก ปรับ กักขัง หรือยึดทรัพย์สิน ไม่มีกำหนดโทษไว้
ข้อหาที่ 4. ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่สั่งฟ้องเพราะ ข้อเท็จจริงฟังได้เพียงแต่ว่า ผู้ต้องหาที่ 4 (ธานี ทุมมาศ) เป็นคนพยายามล่าสัตว์ป่า และ ขณะที่ ผู้ต้องหาที่ 4 พยายามยิงสัตว์นั้น นายเปรมชัย นายยง และนายนที ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ แต่ในความผิดล่าสัตว์ป่า มีการสั่งฟ้อง นายเปรมชัย แล้ว
ข้อหาที่ 5.ร่วมกันกระทำการทารุณสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร ไม่สั่งฟ้องเพราะ กฎหมายยังไม่มีบัญญัติว่าเสือดำเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และไม่มีอะไรที่แสดงให้เห็นว่าการที่พวกเขายิงเสือดำ เป็นการกระทำที่ทารุณ
ส่วนในข้อหาพยายามล่าสัตว์ป่าฯ มีความเห็นฟ้องผู้ต้องหาบางคน แต่อีกบางคนไม่ฟ้อง ซึ่งเรื่องนี้พนักงานสอบสวนยืนยันตั้งแต่ต้นว่าทุกคนมีการแบ่งหน้าที่กันทำ ฉะนั้นข้อหาร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าฯก็ต้องมีการ แบ่งหน้าที่กันทำเหมือนกัน จะฟ้องเฉพาะนายธานี ทุมมาศ คนเดียวไม่ได้ หลังจากนี้จะส่งความเห็นแย้ง ให้สำนักอัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด ในวันพรุ่งนี้(10เม.ย.) ก่อนเที่ยง ส่วนอัยการสูงสุดจะมีความเห็นอย่างไร ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของท่าน ตำรวจไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ ที่ผ่านมามีทั้งเห็นตามพนักงานสอบสวน และเห็นตามพนักงานอัยการ แล้วแต่กรณี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าดูตามกฎกระทรวงนายวิเชียร ก็มีความผิดที่ทำหนังสือให้กับนายเปรมชัย เข้าไปในอุทยานฯหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไปตอบแทนกรมไม่ได้ ตนเพียงแต่พูดในความเห็นแย้งของพนักงานสอบสวนเท่านั้น เรื่องนี้เป็นอำนาจของกรมอุทยานฯ ถ้าเห็นว่านายวิเชียร มีความผิดก็สามารถมาร้องทุกข์ได้ ที่ผ่านมาเคยทำหนังสือไปถึงกรมอุทยานฯตั้งแต่ต้น แต่กรมอุทยานฯบอกว่ามีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง