“ศศิธร” หุ้นใหญ่ “วิคตอเรีย” มอบตัวกับตำรวจ เจอหนัก 13 ข้อหารวมค้ามนุษย์ ส่งตัวให้ พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เตรียมฝากขังพรุ่งนี้ (17 ม.ค.61)
น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (16 ม.ค.61) หลังถูกศาลอาญาอนุมัติหมายจับพร้อมพวกรวม 7 คน จำนวน 8 หมายใน 13 ฐานความผิด เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง โดยหลังจากนี้จะส่งมอบตัวให้กับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง สอบปากคำก่อนจะนำตัวฝากขังที่ศาลอาญารัชดาในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.) ส่วนผู้ต้องหารายอื่นๆที่เหลือทั้ง 6 คน ที่ศาลออกหมายจับถูกควบคุมตัวในเรือนจำเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น น.ส.ศศิธร ยอมรับเป็นผู้ต้องหาตามหมายและเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 13 ฐานความผิด จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ศศิธร มีชื่อขอใบอนุญาตเปิดสถานบริการอาบอบนวด “วิคตอเรีย ซีเครท” แต่ก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นเจ้าของตัวจริงด้วยหรือไม่ ส่วนจะมีการโยงใยกับการค้ามนุษย์ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ขณะนี้รอเอกสาร หลักฐาน จากกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ตำรวจมีข้อมูลเพียงแค่ น.ส.ศศิธร มีชื่อจดเบียนในลักษณะเดียวกันมีอีก 10 บริษัท เรื่องนี้ได้สั่งให้มีการตรวจสอบสถานประกอบการ 10 แห่ง ว่ามีการกระทำความผิดที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ จากการตรวจสอบพบว่ามีการเปลี่ยนชื่อขอใบขออนุญาตครั้งสุดท้ายเมื่อปี 60 ซึ่งก็จะต้องมีการไล่ตรวจสอบกันอีกครั้งหนึ่งว่าเคยกระทำความผิดมาก่อนหน้านี้หรือไม่ แต่ที่ปรากฏชัดเจนคือความผิดเกิดขึ้นในปี 61 หลังจากนี้ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วย
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องรอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอพิจารณาว่าเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ถ้าหากเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษตำรวจก็จะส่งมอบต่อให้ดีเอสไอ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
สำหรับผู้ต้องหาที่ศาลออกหมายจับ ประกอบด้วย ประกอบด้วย
1. นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย อายุ 67 ปี
2. นายชัยณรงค์ อันสุข อายุ 53 ปี
3. นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ อายุ 55 ปี
4. นายสมชาย แสงอุดม อายุ 52 ปี
5. นายมนัส อ่วมทับ อายุ 48 ปี
6. นายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล อายุ 29 ปี
7. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ออนเซน โดย น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการ
8. น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะส่วนตัว อายุ 45 ปี ในฐานความผิด ดังต่อไปนี้
1. กระทำความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์ โดยเป็นผู้แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากบุคคล และเด็ก (บุคคลผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี) โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี การแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น การบังคับใช้แรงงานหรือบริการอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ด้วยวิธีการฉ้อฉล หลอกหลวง หรือใช้อานาจโดยมิชอบ (พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551)
2. สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยได้ลงมือกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตามที่ได้สมคบกัน และร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปกระทาความผิดฐานค้ามนุษย์ (พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551)
3. ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม (พ.ร.บ.ปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539)
4. ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งเด็กที่มีอายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปีเพื่อให้บุคคล นั้นกระทาการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม (พ.ร.บ.ปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539)
5. ร่วมเป็นผู้ดูแล หรือผู้จัดการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำ การค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี อันเป็นสถานการค้าประเวณีที่มีบุคคลและเด็กซึ่งมีอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปีทำการค้าประเวณีอยู่ด้วย (พ.ร.บ.ปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539)
6. ร่วมเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหาหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง แม้ผู้นั้น จะยินยอมก็ตาม(ประมวลกฎหมายอาญา)
7. ร่วมเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหาหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง และได้ กระทำแก่บุคคลอายุเกิด 15 ปีแต่ยังไม่เกิน 18 ปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม (ประมวลกฎหมายอาญา)
8. ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม (ประมวลกฎหมายอาญา)
9. เป็นผู้รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง ให้เข้า พักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม(พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2542)
10. ร่วมเป็นนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทางานในสถานบริการ(พ.ร.บ.คนเข้า เมือง พ.ศ.2542)
11. ร่วมเป็นผู้ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติ เสี่ยงต่อการกระทาความผิดและกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์มิชอบจากเด็ก(พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546)
12. ร่วมกันดารงชีพอยู่แม้เพียงบางส่วนจากรายได้ของผู้ซึ่งค้าประเวณีอยู่ร่วมกับผู้ซึ่งค้าประเวณี หรือสมาคมกับผู้ซึ่งค้าประเวณีรับเงินหรือประโยชน์อย่างอื่น โดยผู้ซึ่งค้าประเวณีเป็นผู้จัดให้ (ประมวลกฎหมายอาญา)
13. ไม่จัดทำประวัติของพนักงานก่อนเริ่มเข้าทางานในสถานบริการ(พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509)
โดยผู้ต้องหาที่ 1-3 ถูกดําเนินคดีตามฐานความผิด ข้อ 1-12 ผู้ต้องหาที่ 4-6 ถูกดําเนินคดีตามฐานความผิด ข้อ 1-11 ส่วนผู้ต้องหาที่ 7-8 ถูกดําเนินคดีตามฐานความผิด ข้อ 1-13