ศาลปกครองสูงสุดนัดตัดสินครั้งสุดท้ายสำหรับคดีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานพร้อมพวกเผาบ้านพักของกลุ่มชาติติพันธุ์กะเหรียงในพื้นที่ อุทยานฯแก่งกระจาน
กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในพื้นที่แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี หลังจากร่วมฟังคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด คดีระหว่างนายโคอิ หรือ ปู่คออี้ มีมิ กับพวก 6 คน ฟ้องคดี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานขณะนั้น และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับพวกรวม 2 คน เผาทำลายทรัพย์สิน ยุ้งฉางข้าว ของชาวกระเหรี่ยง โดยศาลปกครองสูงมีคำพิพากษา ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมแก่ผู้ฟ้องทั้ง 6 ราย จากเดิม 10,000 บาท เป็นเฉลี่ยคนละ 50,000บาท โดยให้ชดใช้ภายใน 30 วัน และห้ามผู้ฟ้องทั้ง 6 รายกลับเข้าไปในพื้นที่เนื่องจากไม่มีเอกสารหลักฐานแสดงสิทธิ ศาลจึงไม่สามารถบังคับให้ชาวบ้านกลับเข้าไปอยู่อาศัยได้
โดยกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในพื้นที่แก่งกระจาน เผยกับสื่อมวลชนว่า พอใจในการตัดสิน ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งก็ไม่พอใจ ที่ศาลไม่ตัดสินให้กลับเข้าไปอยู่อาศัยในพื้นที่ เดิมได้ เพราะความหวังของปู่คออี้ คือ อยากกลับไปอยู่ในพื้นที่อาศัยเดิม คือบ้านบางกอยบน ที่เปรียบเสมือนบ้านเกิดของพวกเขา
ส่วนนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดเฉพาะพญาเสือ อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานขณะนั้น ในฐานะผู้ถูกฟ้อง เปิดเผยว่า น้อมรับในคำตัดสินของศาลครั้งนี้ หลังจากนี้จะไปดูรายละเอียดคำสั่งศาลจำนวน 57 หน้า เพื่อดำเนินการชดใช้ตามกฎหมาย และชี้แจงกรณีพิพาทระหว่าง เจ้้าหน้าที่อุทยาน เป็นไปด้วยดีมาตลอด เพียงแต่การทำงานยังไม่ละเอียด
นอกจากนี้ยังได้พูดถึงการสร้างความแตกแยกระหว่างเจ้าหน้าที่อุทยานฯกับชาวบ้าน ผอ.ชัยวัฒน์ ระบุ มีการทำเป็นขบวนการและก่อนหน้านี้เคยรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการเอาผิด แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ที่หวังผลเรื่องการสวมบัตรประชาชนและธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งตัวเองก็เคยถูกกดดันหลายอย่างเพื่อให้ออกจากพื้นที่ หลังจากนี้ยืนยันว่าจะเดินหน้าทำหน้าที่รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป