เฟซบุ๊กเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” เผยข้อความพ่อเรียกร้องความเป็นธรรม หลังเกิดอุบัติเหตุวัยรุ่นอายุ 18 ปีซิ่งรถเบนซ์พุ่งชนภรรยาจนเสียชีวิต ขณะที่ลูกต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา แม้คู่กรณีประกาศผ่านสื่อจะดูแลครอบครัวของผู้เสียหายให้ถึงที่สุดนั้น สุดท้ายไม่เห็นว่าจะบาดเจ็บหรือดูเหมือนเคยบาดเจ็บหนักมาแต่อย่างใด
5 พ.ค.60 เฟซบุ๊กเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” เปิดเผยเนื้อหาที่มีพ่อคนหนึ่งร้องทุกข์เข้ามา เนื่องจากภรรยาและบุตร ถูกรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีขาว ขับขี่ด้วยความเร็วสูง และประมาทพุ่งชนทำให้ภรรยาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุหน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ และบุตรชายเป็นเจ้าชายนิทรา ซึ่งเบื้องต้นผู้ก่อเหตุยืนยันจะรับผิดชอบรับบุตรชายเป็นบุตรบุญธรรม และดูแลค่าใช้จ่าย แต่ได้มาแค่รับผิดชอบงานศพภรรยา โดยร้องทุกข์มายังเพจแหม่มโพธิ์ วอนให้สังคมช่วยเรียกร้องความเป็นธรรม มีเนื้อหา ว่า
#พ่อช้ำใจหนัก #วัยรุ่น18ชนเมียดับลูกพิการ #พ่อคู่กรณีรับปากดิบดี #สุดท้ายช่วยแค่งานศพ #ประกันชีวิตไม่จ่ายตามกรมธรรม์ #วอนสังคมเรียกร้องขอความเป็นธรรม #ช่วยควีนแชร์ด้วยนะคะ
“สวัสดีครับควีน วันนี้เรามีเรื่องขอความช่วยเหลือ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2560 เวลาประมาณ 06.00 น. ระหว่างที่แฟนผมขับรถจะไปส่งลูกที่โรงเรียน และแฟนจะไปทำงานต่อ ทันใดนั้นมีรถเบนซ์สีขาว ซึ่งมีเด็กชายอายุ 18 ปี ขับมาด้วยความเร็วสูงบนถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ทางไปห้างแฟชั่น ซึ่งเป็นถนนรถวิ่งสวนทาง แต่รถเบนซ์ขับข้ามเลนมาชนกับรถมาสด้า ซึ่งรถมาสด้าหักหลบโดนชนท้าย และพุ่งมาชนประสานงากับรถแฟนผม ความแรงทำให้รถแฟนผมหมุนกลับ ทำให้แฟนผมติดอยู่ในรถและเสียชีวิตในเวลาต่อมา และลูกผม ซึ่งติดอยู่ในรถได้รับบาดเจ็บสาหัส ทางด้านร่างกายและสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง มีเลือดออกในก้านสมอง และปอดทั้งสองข้างเลือดออก ขาหัก 3 ท่อน หมอแจ้งให้ทางญาติทำใจ น้องอาจเสียชีวิต ซึ่ง ณ ตอนนั้นผมใจแทบสลาย แต่มีโอกาสรอด 30% ซึ่ง ณ ปัจจุบันลูกผมสมองยังไม่ตอบสนอง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ลูกผมจะมีอาการเกร็งแขน – ขา ตลอด เนื่องจากสมองไม่สั่งการ”
“ในส่วนเรื่องการเยียวยาของคู่กรณีที่เคยออกสื่อว่าจะรับผิดชอบ รับลูกผมเป็นบุตรบุญธรรมจะรับผิดชอบทุกอย่าง จะดูแลให้หาย เบื้องต้น ก็รับผิดชอบในส่วนเรื่องการจัดงานศพแฟนผมเท่านั้น ในส่วนลูกผมไม่เคยถามผมว่าน้องอาการเป็นไงบ้าง ค่าใช้จ่ายในการรักษาเท่าไหร่ ไม่เคยถามผมเลย ไม่ดูแลตามที่ได้ออกสื่อ ผมได้คุยในส่วนเรื่องค่าเสียหายที่ครอบครัวผมได้รับกับหนึ่งชีวิตที่เสียไป และลูกผมซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง เนื่องจากน้องสมองยังไม่สั่งการ ทางคู่กรณีตอบมาคำเดียวว่าไม่มี ผมรอฟังว่าจะคุยต่อยังไง ไม่มีคำพูดอื่นต่อ ให้ไปว่ากันที่ศาล ผมเสียใจมากกับสิ่งที่เค้ากระทำ และคำพูดที่ไม่จริงใจกับสิ่งที่พูด ในส่วนเรื่องคดีก็ไม่คืบหน้า ติดต่อร้อยเวรไม่เคยรับสาย ณ ปัจจุบันจะ 2 เดือน แล้วคดียังนิ่งอยู่เลยครับ ทุกวันนี้ผมไม่สามารถทำใจได้กับเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นกับครอบครัวผม ความรักที่ผมมีให้กัน 14 ปี ต้องมาสิ้นสุดกับความประมาทขั้นร้ายแรง ผมรับไม่ได้ และทำใจไม่ได้เลยกับการสูญเสีย”
ขอขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊กเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ”
