เรื่องราวสุดสยองที่ จ.อุดรธานี เมื่อสาวป่วยอาการทางประสาท เกิดอาการหลอนและเพี้ยน คิดว่ามีคนมาทำร้าย ก่อนใช้มีดอีโต้ฟันคอฆ่าญาติหนุ่มรายหนึ่งจนเปลือยเปล่า ก่อนจะหมกศพในผ้าห่มทับด้วยที่นอน ก่อนจะนอนด้วยกันกับศพนาน 5 วันจนส่งกลิ่นเหม็นเน่า สุดท้ายหลบหนีไปอย่างไร้ร่องรอย
เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยและแพทย์ พ.ศูนย์อุดรธานี ไปตรวจสอบศพถูกฆ่าหมกบ้านไม้ยกพื้นสูง พื้นที่บ้านหนองสวรรค์ ต.เชียงพิณ อ.เมือง ซึ่งในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ต้องพบกับกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งโชยทั่วบ้าน โดยที่ห้องนอนชั้นล่างพบศพ นายจิระศักดิ์ พาพิจิตร อายุ 41 ปี เสียชีวิตในสภาพอืดเน่า ไม่สวมเสื้อผ้า มีบาดแผลถูกฟันที่ท้ายทอย และแผ่นหลังรวม 10 แผลถูกห่อด้วยผ้าห่มนวมและมีที่นอนปิดทับไว้ แพทย์ระบุเสียชีวิตมาประมาณ 4-5 วันแต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ นอกจากนี้ ยังพบมีดอีโต้วางอยู่ในห้อง 2 เล่ม โดยมีด 1 เล่ม มีคราบเลือดติดอยู่ เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
นางเพ็ญ วงษ์สา อายุ 66 ปี เจ้าของบ้านให้การกับตำรวจว่า ปกติอยู่กับลูกชาย ลูกสาว และหลาน ซึ่งห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องของลูกสาว คือ น.ส.วนิดา วงษ์สา อายุ 39 ปี เป็นคนสติไม่ดี มีอาการทางประสาท ที่หลอนว่าจะมีคนมาทำร้ายและจะนำมีดอีโต้ไปไว้ในห้องนอนอ้างว่าไว้ป้องกันตัว ซึ่งลูกสาวชอบอยู่ในห้องนอน ปกติแล้วถ้าอารมณ์ดีก็จะออกมาคุยกับแม่และพี่ชาย แต่ถ้าอาการกำเริบขึ้นเมื่อไรก็จะพูดบ่นอยู่ในห้องคนเดียวและไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะลูกสาวถือมีดติดตัวไว้
จนเช้าวันนี้ลูกสาวทำกับข้าวให้กิน และบอกว่าจะออกไปหางานทำแล้วเดินออกจากบ้านไป ตนเองก็ไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่าลูกสาวมีอาการทางประสาทเดี๋ยวก็เดินกลับมาบ้านแต่ นายสุวิทย์ วงษ์สา อายุ 44 ปี ลูกชาย บอกว่าได้กลิ่นเหม็นเน่าออกจากห้องของลูกสาวมาแล้ว 2 วันแต่วันนี้กลิ่นแรงมากเหมือนหนูตัวใหญ่เน่าตายภายในบ้าน จึงเดินเข้าไปดูในห้องนอนลูกสาวที่ปิดประตูใช้ถุงพลาสติกมัดประตูห้องไว้ เมื่อเปิดเข้าไปพบว่ากลิ่นออกมาจากที่นอนทับอะไรบางอย่าง และเมื่อเปิดดูถึงกับช็อก พบว่ามีศพ นายจิระศักดิ์ ซึ่งเป็นญาติกันและไม่มีภรรยา เปลือยขึ้นอืดห่อด้วยผ้าห่มและหมกศพไว้ในห้อง จากนั้นลูกชายรีบวิ่งออกไปตามญาติมาดู พร้อมโทร.แจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี สันนิษฐานเบื้องต้นว่า นายจิระศักดิ์ ผู้ตายอาจจะเข้ามาทำมิดีมิร้าย น.ส.วนิดา ซึ่งนอนอยู่ในห้องคนเดียวแต่ น.ส.วนิดา ซึ่งญาติบอกว่ามีอาการทางประสาท หวาดระแวงว่าจะมีคนมาทำร้าย และมักนำมีดอีโต้มาเก็บไว้ใกล้ตัว เมื่อผู้ตายเข้ามาในห้อง จึงใช้มีอีโต้ฟันจนเสียชีวิตและได้ห่อศพด้วยผ้านวมนอนอยู่กับศพเกือบ 5 วัน กระทั่งศพส่งกลิ่นเน่าเหม็นจึงได้หลบหนีไป ซึ่งไม่มีคนปกตินอนอยู่กับศพได้ จึงได้ให้ญาติช่วยกันออกตามหาเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี หากมีอาการทางประสาทตามที่ญาติกล่าวอ้าง ต้องให้แพทย์ตรวจสอบ หากปล่อยให้เร่ร่อนหรือหลบหนีอยู่ตามลำพัง เกรงว่าจะได้รับอันตรายหรือไปทำอันตรายคนอื่นอีก