“หมอโอ๊ค-สมิทธิ์” ควง “โอปอล์ ปาณิศรา” ภรรยาและทนายความเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ทองหล่อ หลังถูกเพจตัดต่อภาพพร้อมอ้างชื่อขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร-ยาลดความอ้วน โดยหมอชื่อดังยืนยันตนเองไม่เกี่ยวและถูกทำเสียชื่อเตรียมเอาเรื่องถึงที่สุด
วันนี้ (4 มิ.ย.61) “หมอโอ๊ค” นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล พร้อมด้วยภรรยา “โอปอล์” ปาณิสรา และทนายความ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ หลังถูกแอบอ้างจากเฟซบุ๊กเพจหนึ่งที่ขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดความอ้วน นำรูปถ่ายและชื่อนามสกุลจริงของตัวเองไปแอบอ้างและตัดต่อโดยที่เจ้าตัวไม่มีส่วนรู้เห็นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา
“หมอโอ๊ค-นพ.สมิทธิ์” เปิดเผยว่า การนำภาพของตนเองรวมถึงชื่อนามสกุล ตำแหน่งนายแพทย์ และตราโรงพยาบาล ไปตัดต่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในเพจเฟซบุ๊ก เดย์เดย์บูม (DAYDAYBOOM) ทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะภาพสวมเสื้อกาวด์ปรากฏชื่อโรงพยาบาลที่ประจำอยู่อย่างชัดเจนในเชิงยืนยันสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ ถือว่าผิดจรรยาบรรณที่ตนเองรักษาไว้ตลอดชีวิต ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความในที่สุด
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าว มีคนหลงเชื่อโทรศัพท์มาสอบถามที่คลินิกหลายคน รวมถึงถูกผู้ใหญ่หลายท่านเข้าใจผิดและมาตำหนิตนเองและครอบครัว ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองเคยโพสต์เตือนลงไปในเพจแล้ว รวมถึงแจ้งรีพอร์ตเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวแล้ว แต่ก็ยังมีคนหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน เพราะเข้าใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของตนเอง อีกทั้งยังถูกเจ้าของเพจดังกล่าวรีพอร์ตตัวเองกลับกล่าวหาว่าเป็นเพจปลอมด้วย
ทั้งนี้ “หมอโอ๊ค” ยืนยันอีกว่า ตนเองและครอบครัวไม่เคยมีความคิดจะใช้ความเป็นแพทย์มาขายผลิตภัณฑ์เช่นนี้ และตนเองรักในวิชาชีพแพทย์มาก ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และอยากให้เป็นบรรทัดฐานว่าให้ดำเนินคดีหากเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น เพราะเจอหลายความเห็นที่บอกว่า คนไทยขี้เกียจไม่ชอบอ่านหนังสือเยอะอย่างไรก็ซื้ออยู่แล้ว อยากบอกว่าคนไทยไม่ได้ง่าย พร้อมฝากเตือนประชาชนว่าการลดน้ำหนักไม่มีทางลัด ต้องควบคุมพฤติกรรมทั้งการทานอาหารและออกกำลังกายเท่านั้น ด้าน “โอปอล์ ปาณิสรา” ภรรยาของ หมอโอ๊ค ระบุว่ามีเพื่อนหลายวงการถูกนำรูปไปตัดต่อเพื่อโฆษณาสินค้าลักษณะนี้จนมีคนหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ด้วย จึงอยากมาแจ้งความดำเนินคดีให้เป็นแบบอย่าง
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะตรวจสอบหาเจ้าของเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว เพื่อดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมถึงจะมีการขยายผลตรวตสอบผลิตภัณฑ์ยาลดความอ้วนดังกล่าวว่ามีส่วนผสมอันตราย และเข้าข่ายความผิดใดเพิ่มเติมหรือไม่