จากกรณีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธบุกยิงภายในหมู่บ้านธินวุฒิซอย 3 ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ม.3 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งเป็นครอบครัวครูสอนนาฏศิลป์ เมื่อวันที่ 9 เม.ย. เวลา 23.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต ได้เข้าตรวจสอบในพื้นที่ในช่วงเช้าวันนี้ (10 เม.ย.) และได้ทราบเบาะแสคนร้ายเป็นบ้านใกล้เคียง เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐาน และขอศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว
ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ศาลจังหวัดภูเก็ต ได้อนุมัติหมายจับ นายพันปกรณ์ สุวรรณฤทธิ์ อายุ 36 ปี บ้านเดิมอยู่ที่ จ.พัทลุง ที่อยู่ปัจจุบัน 12/390 ม.3 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ตามหมายจับที่ จ 221/61 ลง 10 เม.ย.61 ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควรต่อพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต เพื่อติดตามจับกุมนายพันปกรณ์ มาดำเนินคดี หลังจากก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงครอบครัวครูบาดเจ็บสาหัส 3 ราย
โดยในที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 12/319 ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว มีรั้วกำแพงหน้าบ้าน และมีประตูกระจกสไลด์ ผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งเป็น พ่อแม่ลูกกัน ทราบชื่อคือ นาย สมชาย เคียงจันทร์ อายุ 42 ปี อาชีพครูสอนนาฏศิลป์ มีบาดแผลถูกยิงที่คอด้านซ้าย 1 นัด เลือดไหลนองพื้น อาการสาหัส ส่วน นาง อุรารัตน์ เคียงจันทร์ อายุ 43 ปีภรรยา ถูกยิงที่เเขน 1 นัด ขา 1 นัด ที่หลังบริเวณส่วนเอวอีก 2 นัด นิ้วมือด้านขวาหัก และ นายธนาวัฒน์ เคียงจันทร์ 20 ปี ลูกชายถูกยิงที่ขาขวา และด้านหลัง บริเวณเอว เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา ซึ่งในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม.ตกอยู่ เจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่วิทยาการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานในภายหลัง
จากการสอบสวนทราบว่า เวลาประมาณ 22.30 น. ขณะที่นายธนวัฒน์ฯ พร้อมด้วยครอบครัวกำลังรับประทานอาหารภายในบ้านหลังที่เกิดเหตุอยู่นั้น ได้มี นายพันปกรณ์ สุวรรณฤทธิ์ (ทราบชื่อนามสกุลจริงภายหลัง) ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 12/390 (บ้านหลังติดกัน) ได้เดินเข้ามาที่บ้านของนายธนวัฒน์ ที่เกิดเหตุ และได้ตะโกนบอกว่า “ช่วยเงียบเสียงของสุนัขให้หน่อย” และนายพันปกรณ์ ได้เดินกลับไป ซึ่งนายธนวัฒน์ ได้พยายามเงียบเสียงของสุนัขที่บ้านแล้ว ด้วยการขังไว้ในห้องแต่สุนัขยังคงส่งเสียงดังเห่าอยู่เหมือนเดิม จากนั้นนายพันปกรณ์ ได้เดินเข้ามาที่บ้านของนายธนวัฒน์ อีกครั้ง และได้เข้ามาพร้อมกับอาวุธปืน ไม่ทราบชนิด ด้วยอาการโมโหหนักมาก
จากนั้นจึงได้เล็งอาวุธปืน และยิงเข้าไปที่ นางอุรารัตน์ มารดาของนายธนวัฒน์ ซึ่งนายธนวัฒน์ ได้เข้าไปห้ามแต่กลับถูกนายพันปกรณ์ ยิงสวนกลับมา จนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณโคนขาขวา ต่อมาพ่อของ นายธนวัฒน์ ได้พูดขอร้อง นายพันปกรณ์ ว่า “อย่ายิง อย่ายิง” แต่นายพันปกรณ์ ไม่ฟังกลับเล็งอาวุธปืนไปและยิงนายสมชาย ผู้เป็นพ่อ จำนวนหลายนัด จากนั้นผู้ต้องหาก็หลบหนีไป ซึ่งนายธนวัฒน์ ได้คลานออกมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านแต่ก็ไม่พบผู้ใด จึงได้โทรศัพท์เรียกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือ ส่วนพ่อและแม่ ยังบาดเจ็บบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู รพ.วชิระภูเก็ต