ความคืบหน้ากรณีหมอสูติฯคนดังเมืองปากน้ำโพที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีข่มขืนคนไข้ภายในคลินิก เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมแพทย์หญิงของขวัญ ฟูจินิรันทร์ แพทย์เวรกรรม”ของขวัญคลินิก”ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสูตินรีใน กทม. เดินทางมาพบ พ.ต.อ.ฐานุพงศ์ แสงซื่อ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีและตรวจสอบคลินิกที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมเนื่องจากไม่เชื่อว่าหมอ จะเป็นผู้ก่อเหตุตามคำร้องทุกข์ ซึ่งนายอัจฉริยะและทีมงานนั่งรอ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ประมาณ 30 นาที โดยคณะและ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หารือกันส่วนตัวในห้องทำงาน ปิดประตูห้องไม่ให้สื่อมวลชนเข้าฟัง
นายอัจฉริยะ เปิดเผยก่อนเข้าห้องพบ ผกก.เมืองนครสวรรค์ ว่า เบื้องต้นได้ประสานกับ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และคุณหมอแล้วเมื่อคืนนี้ ว่าตนและทีมงานจะเดินทางมาพบที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ และจะเดินทางไปตรวจที่คลินิกเกิดเหตุ เนื่องจากตนไม่เชื่อว่าหมอสูติฯ จะกระทำตามคำร้องของผู้เสียหาย เนื่องจากผู้เสียหายมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ 30-50 คน ไม่น่าจะเป็นไปได้ ซึ่งหากดูที่เกิดเหตุจะทราบชัดเจนว่าเป็นไปได้ตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ หากไปดูที่เกิดเหตุจะทราบทันที
“เรื่องนี้ต้องมองสองมุมว่าเป็นไปได้หรือไม่ ต้องดูพยานแวดล้อมประกอบด้วย ซึ่งการเดินทางมาวันนี้มาดูสองส่วนว่าผู้เสียหายินยอม สมยอมหรือไม่ หรือว่าสภาพแวดล้อมสามารถทำได้หรือไม่อย่างไร หากละเมิด 50คนโรงพักเมืองนครสวรรค์จะอยู่ได้หรือไม่ ประเด็นเมื่อเช้านี้มีแค่ 3 คน ”นายอัจฉริยะกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางมาพบตำรวจครั้งนี้มาในฐานะอะไร ได้รับการแต่งตั้งเป็นทนายฝ่ายโจทก์หรือจำเลย นายอัจฉริยะ ตอบว่า ตนมาในฐานะสิทธิพลเมืองดี
ด้านแพทย์หญิงของขวัญ เปิดเผยว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อดูว่าลักษณะท่าทาง สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้หรือไม่ เป็นการกระทำลวงละเมิดหรือไม่ หากดูที่เกิดเหตุสามารถบอกได้ ชั้นนี้หมอฐานะผู้เชี่ยวชาญตรวจภายในไม่น่าเป็นไปได้ว่าจะมีการละเมิดกัน 40-50 คน ประเด็น 50 คนมันมีหรือป่างเพราะหากละเมิด 50 คน สภ.นครสวรรค์จะสามารถอยู่ได้หรือไม่
จากนั้น นายอัจฉริยะ พร้อมทีมงานได้เดินทางไปยังคลินิก โดยก่อนที่นายอัจฉริยะจะเดินทางไปถึง หมอได้เปิดคลินิกรอ และพาคณะสื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพภายในทุกมุม
ทางด้าน หมอสูติฯ ได้เปิดเผยว่า ขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจตนมาโดยตลอด เดินทางไปทำงานหรือไปไหนมาไหนก็มีคนมาให้กำลังใจต้องขอขอบคุณ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าใจผิดของคนไข้เรื่องการตรวจรักษา คนไข้ไม่เข้าใจการักษา หมอตรวจจะมีความหนักเบาไม่เท่ากัน การตรวจหน้าอก ตรวจช่องคลอดอาจจะหนักเบาไม่เท่ากันแล้วคนไข้ก็เข้าใจผิด
จากนั้นเมื่อนายอัจฉริยะเดินทางมาถึง ก็ปิดห้องคุยกับหมอ ประเด็นที่คุยเน้นไปที่เรื่องเงินจำนวน 3 แสนบาทที่หมอโอนไปให้ผู้เสียหาย ซึ่งน่าจะออกมาแถลงข่าวอีกครั้ง
เบื้องต้นทีมงานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้จำลองสถานการณ์การตรวจ โดยนำนักข่าวนอนบนขายั่ง ให้หมอตรวจซึ่งหมอก็ตรวจในท่านั่ง ท่ายืน ซึ่งลักษณะเป็นไปไม่ได้ที่หมอจะข่มขืนถึง หรือไปเป่าคอคนไข้ นอกจากนี้ยังถกปมกรณีคนไข้ผู้เสียหายเดินทางไปตรวจกับสาวทอม ที่นั่งรอด้านนอกแต่ทำไมไม่ร้องขอความช่วยเหลือ
ต่อมานายอัจฉริยะพร้อมทีมงานเดินทางมาจาก สภ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อเดินทางมาถึงคลินิก ก็เข้าไปตรวจสอบภายในห้องตรวจคนไข้ของคลินิก โดยไม่ยอมให้สื่อมวลชนเข้าไปด้วย
จากนั้นนายอัจฉริยะก็ขอความร่วมมือหญิงสาวร่างท้วมคนหนึ่ง ให้เข้าไปนอนบนเตียงขายั่งตรวจคนไข้ และให้หมอยืนตรวจเหมือนจริง และจำลองให้หมอโน้มตัวตรวจในลักษณะท่ายืน ท่านั่ง โน้มเอียงไปทำท่าจูบปากคนไข้ หอมแก้ม สามารถกระทำได้หรือไม่ ซึ่งทางคุณหมอก็ให้ความร่วมมือทำท่าตรวจ ท่าโน้มเอียงทุกท่า โดยมีผู้หญิงนอนบนเตียงลักษณะนอนตรวจและทำท่าร่วมเพศ
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่าเท่าที่ตรวจสอบครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเก็บข้อมูลเพิ่มเติม เพราะไม่เชื่อว่าจะมีผู้เสียหายจำนวนมากถึง 50 คน พูดคุยกับหมอยอมรับว่าชอบพอหญิงสาวคนนี้ หญิงสาวคนนี้มาหาหมอ 2 ครั้ง แต่ละครั้งพูดคุยกันนานนับชั่วโมง และยังติดต่อพูดคุยติดต่อเรื่อยมา และกระทั่งหญิงสาวมาหาหมอครั้งที่สองจึงเกิดเรื่อง
“ส่วนประเด็นโอนเงินให้ 2 ครั้ง ครั้งแรก 5 หมื่น และครั้งที่ 2 จำนวน 3 แสน เพื่อต้องการให้เรื่องมันจบๆไปจึงยอมโอนเงินไปให้ และการจำลองสถานการณ์ตรวจบนขายั่งและจำลองท่าทางร่วมเพศบนเตียงคนไข้ตรวจภายในนั้น ก็สามารถกระทำการร่วมเพศได้และไม่ได้มองได้ 2 ทาง แต่คิดว่าถ้าร่วมเพศต้องท่ายืนเท่านั้น ทั้งนี้ต้องไปดูบาดแผลผู้ต้องว่าเป็นอย่างใด มีบาดแผลแบบไหนประกอบ”ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมกล่าว.