ตร.ค้นบ้าน ผู้ต้องหาฆ่าฝังสามเณรปลื้ม พบเอกสารสำคัญเกี่ยวกับวัดจำนวนมาก ตลึงพบหนังสือตราตั้งตำแหน่งทางคณะสงฆ์ของ พระเทพสิริโสภณ ในตู้เสื้อผ้า
5 มิ.ย.60 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช นำหมายค้นเข้าค้นบ้านเลขที่ 46/21 หมู่บ้านแสนสวย ม.2 ต.ปากนคร อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช ของ น.ส.ปิยฉัตร อรุณสกุล หรือบิว ผู้ต้องหาฆ่าฝังศพ “สามเณรปลื้ม” พบเอกสารเกี่ยวข้องกับวัดวังตะวันตกเป็นจำนวนมาก เช่นใบเสร็จรับเงิน สมุดบัญชีธนาคารจำนวนหนึ่งโดยมีเงินหมุนเวียนเกือบ 5 ล้านบาท ตู้เชฟขนาดใหญ่ ได้อายัด รอตรวจสอบ และพบใบสำคัญหนังสือตราตั้งตำแหน่งทางคณะสงฆ์ของพระเทพสิริโสภณ อยู่ภายในตู้เสื้อของบ้านและมีผ้าไตรจีวร อีกจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดเอกสารสำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดวังตะวันตกนำไปตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งนำสมุดบัญชีธนาคารของวัดวังตะวันตกบางเล่มมีเงินเหลืออยู่ในบัญชีเพียงไม่กี่บาทส่งมอบให้ พระครูพรหมเขตคณารักษ์ รักษาการเจ้าอาวาสดำเนินการต่อไป
ล่าสุด ตำรวจนำตัว นายนที สีดอน อายุ 42 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ร่วมกันขุดหลุมฝังสามเณรปลื้ม จนเสร็จขั้นตอนในการอำพรางศพ ฝากขังที่ศาลแขวงนครศรีธรรมราชแล้วในเช้าวันนี้
ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้ออกหมายเรียก นายพิศิษฐ์ บุษบรรณ หรือ “ป้าหลา” อายุ 55 ปี สาวประเภทสองที่ถูกซัดทอดว่ามีส่วนร่วมด้วยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามข้อมูล โดยเจ้าหน้าที่มีข้อมูลว่า หลังจากทำการฝังศพและอำพรางพื้นที่เสร็จแล้วมีการจ่ายค่าตอบแทนให้ทีมสมรู้ร่วมคิดรายละ 1 หมื่นบาทเป็นรางวัล
ส่วนการแก้ไข และจัดการปัญหาภายในวัดของรักษาการเจ้าอาวาสรูปใหม่ระบุว่า จะเร่งดำเนินการ หลังวัดต้องตกอยู่ในสภาวะตกต่ำที่สุด โดยจะร่วมมือกับทุกหน่วยงาน และพุทธศาสนิกชนรอบวัด เพื่อเร่งแก้ไข ฟื้นศรัทธาของญาติโยม
สำหรับการจัดการภายในวัดวังตะวันตก หลังเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ฝ่ายมหานิกาย) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งพระครูพรหมเขตคณารักษ์ (ชัยสิทธ์) อายุ 45ปี พรรษา 24 เจ้าคณะอำเภอพระพรหม และเจ้าอาวาสวัดสระเรียง ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก ตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.60 ที่ผ่านมา โดยจะเข้ามาตรวจสอบเอกสารทางการเงินของวัดเบื้องต้น หลังพบเบื้องต้นว่าไม่มีบัญชีการเงิน หรือบัญชีเงินฝากของธนาคารหลงเหลืออยู่ แม้แต่บัญชีเดียว
ทั้งนี้ พระครูพรหมเขตคณารักษ์ ในฐานะรักษาการเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก ระบุว่า ได้เร่งทำหนังสือประสานไปยังธนาคารต่าง ๆ เพื่อสอบถามสถานะทางบัญชีของวัดแล้ว ส่วนการจัดการภายในวัดจะร่วมกับพุทธศาสนิกชนรอบวัด และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งฟื้นฟูและพัฒนาวัด หลังที่ตกต่ำที่สุด โดยเฉพาะศรัทธาของญาติโยม