7 มิ.ย.60 จากกรณีเจ้าหน้าที่จับกุมตัว น.ส.กวิตา ราชดา อายุ 25 ปี และ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ “เปรี้ยว” อายุ 24 ปี และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต อายุ 28 ปี 3 ผู้ต้องหาในคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม อายุ 22 ปี สาวร้านคาราโอเกะที่ อ.เขาสวนกลาง จ.ขอนแก่น ได้ที่ชายแดนแห่งนี้และนำตัวส่งไปดำเนินคดีที่ อ.เขาสวนกลาง ตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมาแล้วนั้น พบว่าในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ฝั่งประเทศเมียนมา ซึ่งช่วยเหลือฝ่ายไทยในการควบคุมตัวทั้งหมดส่งตัวกลับมายังไม่มีการเปิดร้านโอโซน สปา แอนด์ คาราโอเกะ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทั้ง 3 คนใช้กบดานในช่วงที่ข้ามไปฝั่งประเทศเมียนมาแต่อย่างใด
โดยอาคารดังกล่าวตั้งอยู่ติดถนนอาร์สามบีท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง ทำให้ถนนด้านหน้ามียานพาหนะแล่นผ่านไปมาอย่างต่อเนื่องจึงมักเปิดให้เป็นสถานบันเทิง โดยมีเจ้าของชื่อหลงเป็นชาวเชื้อสายจีนและว้าที่สร้างตึกนี้ขึ้นเป็นลักษณะอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น จำนวน 5 คูหาติดกัน และที่ผ่านมาเคยเปิดให้กลุ่มว้าเข้าเช่าเพื่อเป็นสถานบันเทิงในลักษณะเดียวกันแต่ไม่ประสบความสำเร็จจึงเลิกราไป กระทั่งต้นปีนี้มีกลุ่มทุนไทยเข้าไปลงทุนเป็นร้านโอโซนฯ มีลิฟขึ้นด้านข้างและมีการนำหญิงสาวจากฝั่งไทยเข้าไปทำงานกระทั่งเกิดเหตุกรณี 3 ผู้ต้องหาดังกล่าวจึงถูกตรวจสอบและยังไม่เปิดกิจการจนถึงปัจจุบัน
ขณะที่ตัวการอีกคนที่เชื่อกันว่าพากลุ่ม 3 ผู้ต้องหาหลบหนีออกจากบริเวณร้านดังกล่าวเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา คือ นายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือ “เก้า” หรือ “เกล้า” อายุ 29 ปี ชาว ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นคนไทยที่ถูกศาล จ.ปทุมธานี และ จ.ศรีษะเกษ ออกหมายจับในคดียาเสพติดยังคงไม่มีผู้ใดพบตัว
แหล่งข่าวฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ระบุว่า ที่ผ่านมามีเพียงการสืบสวนที่ทำให้ทราบว่า นายเก้า เข้าพบผู้ต้องหาหญิงทั้ง 3 คนและพาหลบหนีไปช่วงสั้น ๆ ก่อนที่จะมีการมอบตัวแต่ นายเก้า ยังไม่ปรากฎให้เห็นว่าไปหลบซ่อนอยู่จุดใด และทางการท้องถิ่นเมียนมายังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลรายนี้มากนัก ดังนั้น หากมีการประสานงานเกี่ยวกับคดีความและหมายจับของ นายเก้า ไปให้ทางการท้องถิ่นเมียนมาให้ติดตามตัวก็จะดำเนินการให้เหมือนกรณีผู้ต้องหาหญิงทั้ง 3 คนดังกล่าวต่อไป