แฉปลัดอำเภอหน้าห้องรองผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ เป็นไส้ศึกสายข่าวให้กับเครือข่ายยาบ้า หลังตำรวจชุดสืบสวนเค้นสอบ “สิงโต” เอเยนต์ยาบ้า เปิดปากเป็นเพื่อนสมัยเรียน และเป็นคนส่งข่าวในช่วงระดมกวาดล้าง ขณะที่พ่อเมืองน้ำดำสั่งตั้งกรรรมการสอบวินัยร้ายแรง ย้ำทุกหน่วยงานต้องกวาดบ้านตัวเองให้สะอาดเพื่อสร้างเกราะคุ้มกันยาเสพติดให้กับประชาชน
จากกรณีที่ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เปิดยุทธการฟ้าแดดสงยาง ป้องกันปราบปรามยาเสพติดตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค.61 ด้วยการปูพรมตรวจค้นเกิดขึ้นทั้ง 18 อำเภอ รวมพื้นที่ตรวจค้น 77 เป้าหมาย สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 63 คน แบ่งเป็นผู้เสพฉี่สีม่วง 44 ราย ครอบครอง จำนวน 10 ราย เป็นผู้ค้ายาบ้า จำนวน 12 ราย และสามารถจับผู้ที่มีอาวุธปืนในครอบครองไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 9 ราย รวมเป็นของกลาง ยาบ้าจำนวน 1,337 เม็ด กัญชา 116.96 กรัม อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์จำนวน 9 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น ไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เงินสด 46,160 บาท ซึ่งในจำนวนผู้ต้องหา มีพนักงานราชการ 6 คน หนึ่งในนั้นเป็นเลขาหน้าห้องรองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ และตำรวจกำลังทำการขยายผล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 พ.ค.61 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานว่า พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ (ผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์) และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้เชิญตัว นายศุภสิทธิ์ นาชัยเวียง อายุ 34 ปี เจ้าพนักงานปกครองปฏิบัติการที่ทำการปกครองจังหวัดกาฬสินธุ์ และเป็นเลขาหน้าห้อง นายเธียรชัย อัจฉริยพันธุ์ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ไปสอบปากคำ หลังจากที่ นายธีรชาติวุฑิ กรรณิกา หรือ “สิงโต” อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาครอบครองยาบ้า ให้การซัดทอดว่า นายศุภสิทธิ์ ปลัดอำเภอหน้าห้องรองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นสายแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวในการปราบปรามยาเสพติดใน ยุทธการฟ้าแดดสงยาง โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนและทราบว่า ปลัดอำเภอคนดังกล่าว ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ส่งข่าวทางไลน์ แจ้งความเคลื่อนไหวให้กับนักค้ายาเสพติดอีกคน
พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณีนี้ชุดสืบสวนได้ทำการควบคุมตัว นายธีรชาติวุฑิ หรือ “สิงโต” ผู้ต้องหายาบ้าได้ภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ตรงถนนสนามบิน ต.กาฬสินธุ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งใน 63 ราย ในจำนวนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในยุทธการฟ้าแดดสงยาง แต่ “สิงโต” เป้าหมายพิเศษตำรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 7 เม็ด โดยสอบสวนทราบว่า นายสิงโต คือ ขาใหญ่รายเดียวที่เชื่อมโยง พนักงานราชการทั้งสำนักงาน จ.กาฬสินธุ์ และ สำนักงานสรรพสามิต จ.กาฬสินธุ์ แต่หลังจากที่สืบสวนรอบด้านได้ปรากฏข้อความผ่านแอพพลิเคชันไลน์ของ นายสิงโต อีกว่า “ให้ระวังจังหวัดกำลังจะระดมกวาดล้าง” ซึ่งข้อความดังกล่าวถูกส่งมาล่วงหน้าก่อน 1 วัน ตรวจสอบพบว่าข้อความนั้นถูกส่งมาจาก นายศุภสิทธิ์ นาชัยเวียง เป็นถึงเจ้าพนักงานปกครอง ปฏิบัติการที่ทำการปกครองจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งทำงานเป็นเลขาหน้าห้องรองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ อีกท่านหนึ่งด้วย
พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ กล่าวต่อว่า การเชิญตัว ปลัดอำเภอดังกล่าวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งปลัดอำเภอก็ยอมรับว่ารู้จักกับ นายธีรชาติวุฑิฯ หรือ สิงโต เป็นเพื่อนในสมัยเรียนและได้ส่งข้อความดังกล่าวให้จริงเพื่อเตือน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอความร่วมมือในการตรวจปัสสาวะ ซึ่งไม่พบมีปัสสาวะสีม่วง และตรวจค้นไม่เจอยาบ้า รวมทั้งกลุ่มพนักงานราชการของสำนักงานจังหวัดอีก 3 คน ที่มีเลขารองผู้ว่าฯ อีกคนก็เป็นเพื่อนสมัยเรียนด้วย แต่เหตุดังกล่าวตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด พ.ศ. 2544 ข้อ 2(4) กรณีผู้ใดคบค้าสมาคมเป็นอาจิน โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดผู้นั้นถือว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้ทำรายงานไปยังผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พิจารณาต่อไป
ด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวหลังจากได้รับรายงานดังกล่าว ว่า กรณี นายศุภสิทธิ์ ที่ไปพัวพันกับเครือข่ายยาบ้านั้น เบื้องต้นได้แจ้งให้หัวหน้าสำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานไปยังกระทรวงมหาดไทย พร้อมกับตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยเพื่อทำการลงโทษต่อไป
นายไกรสร กล่าวอีกว่า สำหรับวันนี้หลายอำเภอ ซึ่งมีการประชุมประจำเดือนกำนันผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอแต่ละแห่งยังคงทำการตรวจปัสสาวะ ผู้ใหญ่บ้านและกำนัน รวมไปถึง ข้าราชการประจำอำเภอในแต่ละแห่ง ซึ่งจะมีการส่งรายชื่อตรงมายังจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินการสอบสวนก่อนการลงโทษหากพบว่าฉี่มีสีม่วง ทั้งนี้ ความเข้มข้นในการปราบปรามยาเสพติดจะเกิดขึ้นเป็นระยะและเป็นกรณีพิเศษในพื้นที่เป้าหมาย ดังนั้นประชาชนที่รู้เบาะแสยาบ้าสามารถแจ้งมาได้ยังตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อขจัดสิ้นยาเสพติดให้หมดไป และเพื่อให้เป็นไปตามโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนสโมเดล เพราะปัญหายาเสพติดเป็นอุปสรรคหลักแก้ไขปัญหาความยากจน และโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ซึ่งที่มีการประชาคมระยะที่ 3 แล้ว โดยประชาชนต้องการให้แก้ปัญหาเรื่องยาเสพติด ซึ่งจะต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“ยุทธการฟ้าแดดสงยาง” กาฬสินธุ์กวาดล้างยาเสพติด-ไล่ 6 พนง.ราชการเอี่ยวค้ายาบ้า
เกลือเป็นหนอน! ขรก. ใกล้ตัวผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ เป็นเครือข่ายยาบ้า