ผู้เสียหายเกือบ 100 คน ร้อง พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถูกหลอกจองสินค้า เซรั่มหน้าเรียวคาโอะ เครือข่าย ผลิตภัณฑ์ ตรีชฏา สูญเงินกว่า 20 ล้านบาท
ตัวแทนของผู้เสียงหายกลุ่มแม่ข่ายจากผลิตภัณฑ์สินค้าคาโอะ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของตรีชฏา ที่ผลิตโดยบริษัทเมจิกสกิน เข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ให้ช่วยดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกเงินคืน มูลค่าความเสียหายประมาณ 20ล้านบาท
โดยนางนภัทร เปิดเผยว่า วันนี้กลุ่มของตนที่ได้รับความเสียหายประมาณ 98 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 20 ล้านบาท นอกจากนั้นยังมีกลุ่มอื่นๆ อีกหลายกลุ่มที่หลงเชื่อโอนเงินสั่งซื้อผลิตภัณฑ์คาโอะคาดว่ามีความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท โดยผลิตภันฑ์คาโอะเป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของตรีชฏา ผู้เสียหายทั้งหมดที่หลงเชื่อครั้งนี้เดิมทีก็เป็นแม่ข่ายขายผลิตภัณฑ์ให้กับตรีชฏามาก่อน กระทั่งเดือน ธันวาคม ที่ผ่านมา ทางแบรนด์ตรีชฏาแจ้งมาว่าจะมีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่คือคาโอ เป็นเซรั่มทาหน้าที่อ้างว่า ทาแล้วทำให้ผิวหน้าเต่งตึงเรียวเป็นวีเซฟโดยไม่ต้องร้อยไหม หรือบินไปถึงเกาหลีราคากล่องละ 79 บาท พวกตนจึงหลงเชื่อโอนเงินสินค้าล็อตแรก วันที่ 9 ม.ค. จำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ จะได้สินค้าประมาณปลายเดือน กุมภาพันธ์ แต่ผลิตภัณฑ์เมจิกถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับเสียก่อน ทางบริษัทแจ้งกับลูกค้าว่าให้ชะลอไปก่อนเพราะเอาสินค้าออกมาไม่ได้ และจะต้องเปลี่ยนโรงงานผลิตเพราะเดิมทีเมจิกสกินเป็นคนผลิตให้
ต่อมาทางเจ้าของตรีชฏาได้แจ้งมาว่าได้โรงงานใหม่แล้วคือโรงงานอินเท็ก แต่เมื่อพวกเราทำการตรวจสอบพบว่าโรงงานไม่มีอย่างที่กล่าวอ้างและมีการขอเลื่อนอ้างอีกครั้ง กระทั่งเดือน มีนาคม เจ้าของตรีชฏา แจ้งมาว่าอีกครั้งว่ามีบริษัทใหม่ที่รับผลิตคือ บริษัทฮานิวโคเรีย จำกัด เมื่อตรวจสอบก็พบว่าอยู่ในเครือของเมจิกสกินเหมือนเดิมที่ผลิตให้กับ บริษัท เมจิกสกินและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นจับกุมแล้ว
นางนภัทร เปิดเผยต่อว่าผลิตภัณฑ์คาโอะ เปิดให้จองจำนวน 5 ล้านกล่อง พบว่ายอดจองสินค้าหมดในเวลาอันรวดเร็ว ต้นทุนจองกล่องละ 79 บาท ลองคูณตัวเลขดูยอดเสียหายจะมีมูลค่าเท่าไหร่ เพราะยังมีผู้เสียหายอยู่ระหว่างการมาแจ้งความอีกหลายคน ผลิตภันฑ์คาโอตัวนี้ ยังมีนางเอกสาวซื้อดังคนหนึ่ง นำไปออกรายการดังรายการหนึ่งอีกด้วย
ด้านพล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยว่า จากการตรวจค้น บ.ฮานิวโคเลีย พบผลิตภัณฑ์คาโอะ เมื่อตรวจสอบไม่พบเหยื่อไผ่จากญี่ปุ่น หรือเห็ดญี่ปุ่นหลายชนิดตามที่โฆษณากล่าวอ้าง เข้าข่ายการโฆษณาสิ่งที่ไม่มีจริง แสดงข้อความจริงอันเป็นเท็จและปกปิดข้อความจริงที่ที่ควรบอกให้แจ้งทำให้ประชาชนหลงเชื่อซื้อผลิตภันฑ์ หลังจากรับเรื่องจะส่งให้พนักงานสอบสวนทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่อ ส่วนคดีเมจิกสกินอยู่ระหว่างกระบวนยึดบ้านและที่ดินเพราะเขาข่ายมูลฐานความผิดฟอกเงิน
ถึงแม้ สำนวนส่งอัยการไปแล้วก็ตาม ก็สามารถดำเนินคดีกับเจ้าของตรีชฏาได้