ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 สั่งเด้ง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ หลังครอบครัวนักธุรกิจปล่อยเงินกู้ ร้องลูกสาวถูกฆาตกรรมอำพราง แต่ตำรวจท้องที่สรุปฆ่าตัวตาย พร้อมแฉคลิปสนทนาภรรยานายตำรวจในพื้นที่ที่ข่มขู่ครอบครัวผู้เสียชีวิต
คลิปเสียงของภรรยานายตำรวจใน อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ โทรศัพท์ไปแสดงความไม่พอใจกับครอบครัวของ น.ส.ดวงจันทร์ ทวีพันธ์ อายุ 33 ปี นักธุรกิจเงินกู้ ผู้เสียชีวิต ในสภาพพบมีถุงพลาสติกคลุมศีรษะในรถยนต์ เนื่องจากเข้าใจว่าญาติไประบุกับสื่อมวลชลว่า ตัวเองมีปัญหาเรื่องเงินกู้กับผู้เสียชีวิต ทำให้ตำรวจไม่กล้าให้ข่าวการสอบสวนการตาย พร้อมปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากข่าวออกไปกระทบให้ตัวเองเสียหายจะเอาเรื่อง ถูก น.ส.บัวทอง โสภาลุน มารดา นำมาขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อีกครั้ง หลังเมื่อวานไปร้องกองปราบปราม เนื่องจากไม่เชื่อว่า น.ส.ดวงจันทร์ ฆ่าตัวตาย ตามที่ตำรวจภูธรลืออำนาจ สรุปสำนวน เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.61
เนื่องจากพบศพในท่านอนตะแคงบริเวณที่วางเท้าด้านหลังคนขับ มีการเอนเบาะฝั่งคนขับลง ไม่ให้คนภายนอกมองเห็น ใบหน้าผู้ตาย มีร่องรอยถูกทำร้ายที่บริเวณใต้ดวงตาฝั่งซ้าย และบริเวณลำคอมีรอยรัด โดยสายรัดเข็มขัดนิรภัยยืดยาวผิดปกติ
ล่าสุด พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ย้าย พ.ต.อ.ชัชนันท์ พรบุตร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรลืออำนาจ ไปปฎิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม ระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีบกพร่องต่อหน้าที่
ทางด้าน พล.ต.ต.ถวาย บูรณรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อำนาจเจริญ ถูกเรียกตัวมาชี้แจงทัน พร้อมยืนยันว่า การตรวจสอบในรถผู้ตายไม่พบดีเอ็นเอของคนอื่นและถุงพลาสติกที่ครอบศีรษะผู้ตาย พบเพียงดีเอ็นเอของบุคคลในครอบครัวและผู้เสียชีวิตเท่านั้น จึงสรุปว่าเป็นการตายแบบผิดธรรมชาติ หรือการฆ่าตัวตาย แต่ยอมรับว่ายังรอผลการตรวจลายนิ้วมือแฝง และไม่ได้ดำเนินคดีเรื่องบันทึกรายการลูกหนี้ และสมุดบัญชีเงินฝากหายไป
ส่วนแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า การชันสูตรศพครั้งที่ 2 ยืนยันไม่ได้ว่าฆ่าตัวตายหรือไม่ ตรวจสอบได้แค่เสียชีวิตจากระบบหายใจล้มเหลว ส่วนยาที่ น.ส.ดวงจันทร์ กิน ไม่เกี่ยวข้องกับการขาดอากาศหายใจ ส่วนบาดแผลใต้ตาต้องสอบถามจากแพทย์คนแรกที่ตรวจศพ เพราะกว่าศพถึงตัวเองก็เปลี่ยนสภาพแล้ว
