ความคืบหน้าหลังจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาคนร้ายใช้หนังสติ๊กกระสุนก้อนหินยิงเข้าใส่ ด.ญ. วัย 12 ปี จนตาหวิดบอด ซึ่งเด็กให้การว่าจำหน้าตาผู้ก่อเหตุได้ โดยวันนี้ผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรบ้านในหูต อ.หลังสวน จ.ชุมพร มาสอบปากคำเพิ่มเติมกับเด็กหญิงผู้เสียหายวัย 12 ปีที่บ้านพัก โดย นายคำนวณ รวดเร็ว พี่ชายของเด็กหญิงผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ บอกว่าตอนที่ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากโรงพยาบาลหลังสวน บอกว่าผู้ก่อเหตุก็คือ “นายเอ็ม” ยืนอยู่ริมถนนใกล้ต้นปาล์มและถือหนังสติ๊กขึ้นมายิงใส่ตัวเองแต่พลาดท่าไปโดนน้องสาวได้รับบาดเจ็บ
นายคำนวณ เล่าอีกว่า นายเอ็ม ตอนกลางวันปกติทุกอย่างและพูดคุยเป็นกันเอง แต่พอตกกลางคืนก็ไล่ทำร้ายชาวบ้านที่ผ่านจุดดังกล่าว บางคนเจอ นายเอ็ม ใช้มีดงอด้ามยาวไล่ฟันชาวบ้านหรือขว้างก้อนหินขนาดใหญ่ใส่รถจักรยานยนต์จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่มากนัก ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านมองว่าเป็นคนในหมู่บ้าน และญาติของ นายเอ็ม เป็นคนดีจึงให้อภัยไม่มีใครมาแจ้งความ เช่นเดียวกับพี่ชายของเด็กหญิงผู้บาดเจ็บ บอกว่า เคยโดน นายเอ็ม ใช้ก้อนหินขว้างใส่หน้าเมื่อ 2 เดือนก่อน
ตอนนี้ทางนักสังคมสงเคราะห์และคณะครูโรงเรียนชุมชนวัดขันเงินที่เด็กหญิงผู้บาดเจ็บ เดินทางมาเยี่ยมอาการพร้อมให้พักรักษาตัวจนดีขึ้นแล้วค่อยกลับไปเรียนหนังสือ โดยเด็กหญิงผู้เสียหาย บอกว่าตอนนี้ตาด้านขวามีอาการพร่ามัว มองเห็นไม่ชัดเจน และเจ็บแผลมาก ๆ อยากหายป่วยเร็ว ๆ เพราะอยากกลับไปเรียนหนังสือ
ส่วนเรื่องของคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรบ้านในหูต ตอนนี้จัดกำลังไปติดตาม นายเอ็ม ที่บ้านพักตั้งแต่ช่วงเช้าแต่ไม่พบตัว ชาวบ้านก็บอกว่า นายเอ็ม หนีขึ้นภูเขาไปแล้วซึ่งจะออกหมายเรียกและหมายจับเพื่อดำเนินคดีต่อไป ที่น่าหนักใจ คือ นายเอ็ม มีบัตรจาก รพ.สราญรมย์ เป็นโรงพยาบาลด้านผู้ป่วยทางจิตและไม่ค่อยมีผู้เสียหายเอาความ และเคยมีประวัติถูกดำเนินคดีเสพยาเสพติดก่อนออกจากการบำบัดรักษาไม่นานก็มาไล่ทำร้ายประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจเลยรีบติดตามตัวให้ได้ก่อนจะก่อเหตุกับผู้อื่นอีก