เจ๊ร้านขายส้มมือปืนผู้ก่อเหตุยิงลูกค้า ขอโทษผู้ตายพร้อมไปขอขมาศพ ส่วนมือปืนยิงหน้าร้านข้าวต้ม ตร.คัดค้านประกันตัว
19 พ.ย.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นางสาวทิพท์ ราศีเมือง อายุ 38 ปี(ผู้ต้องหา) แม่ค้าขายส้มที่ยิงนางสาวศรัญญา ศักดิ์แสง อายุ 30 ปี ในข้อกล่าวหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองและหมู่บ้านหรือทางสาธารณโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร ยิงปืนโดยใช้ดินระเบิด” ซึ่งเป็นค้าขายส้มอยู่ในตลาดไอยราจนเสียชีวิต ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว แม่ค้าส้มปืนโหดยิงลูกค้ากับกลางตลาด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวออกมาจากห้องขังผู้ต้องหามีท่าทีอิดโรย และบอกกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองยินดีที่จะไปขอขมาศพผู้ตาย และขอโทษในสิ่งที่ตนเองทำลงไป
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวเกิดจากผู้ตายซึ่งเป็นเจ้าของร้านส้มอีกแผงในตลาดเดียวกันบอกว่าซื้อส้มจากผู้ต้องหาไปแต่ส้มเน่าราคาประมาณ 1,000 กว่าบาทโดยในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาได้โทรศัพท์ให้ผู้ตายมาหาที่หน้าร้าน และพูดคุยกันได้เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นผู้ต้องหาก็เดินเข้าไปหยิบปืนในร้านออกมายิงใส่ผู้ตายจนเสียชีวิต ซึ่งทางฝั่งญาติของผู้ตายก็บอกว่าจะยังไม่เผาศพจนกว่าผู้ต้องหาจะมาขอขมาศพ
ส่วนคดีนายภัทร (หรือโย) ภูมี อายุ 23 ปี ที่อยู่ 283 ม.1 ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี และนายพีรพล (หรือน๊อต) เทียมสิงห์ อายุ 23 ปี ที่อยู่ 13 ม.4 ต.บ้านคลัง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ใช้อาวุธปืนยิงนายวารุต ทิมประทุม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/7 ม.12 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีเสียชีวิต และนายณัฐวุฒิ โล่ขุนพรหม อายุ 26 ปี นางสาวจันเพ็ญ ช้างนอก อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บ ถูกไปฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เช่นกัน ด้านพ.ต.ท.ยศวัฒน์ นิติรัฐพัฒนคุณ สารวัตรสอบสวนสภ.คลองหลวง กล่าวว่าผู้ต้องหาทั้ง 2คนทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ,ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันพาอาวุธปืนไปในทาง เมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีเหตุอันสมควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน” และคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวนเพราะพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน หลบหนีมาโดยตลอด