แม่เด็กนักเรียนชั้น ม.3 ร่ำไห้ขณะเข้าร้องสื่อพัทลุง ลูกสาวถูก ผอ.โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ จ.พัทลุงลวนลาม จนต้องย้ายหนีไปอยู่ต่างจังหวัด เจ็บใจถูกตราหน้าจนแล้วไม่เจียม
ที่ห้องทำงานสื่อพัทลุงมีผู้ปกครองและศิษย์เก่าโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จ.พัทลุงกว่า 20 คน นำนักเรียนเข้าร้องสื่อไม่พอใจการบริหารงานของนายปรัธะวินณ์ ไพโรจน์บวร ผอ.โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จังหวัดพัทลุง เรื่องการปล่อยให้เด็กนักเรียนเข้า – ออกโรงเรียน อย่างไม่เป็นระบบ จนเด็กนักเรียนออกไปกระทำความผิดนอกบริเวณโรงเรียนในเวลากลางคืน อีกทั้งยังมีการลวนลามเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ต้องย้ายโรงเรียนหนี
โดยเฉพาะด.ญ.จ๋า ก่อนหน้านี้ได้เรียนอยู่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จ.พัทลุง ชั้น ม.1 – ม. 2 เมื่อปีที่แล้วขณะที่เรียนอยู่ชั้น ม. 2 เทอมแรก ถูกนายปรัธะวินณ์ ไพโรจน์บวร ผอ.โรงเรียนฯบอกรัก และลวนลาม ด.ญ.จ๋า เล่าว่าขณะนั้นตนเรียนอยู่ชั้น ม.2 เทอมแรก ถูกเพื่อนล้อว่าเป็นเด็กของ ผอ. จนไม่มีเพื่อนอยากจะคบหาด้วย เนื่องจากเพื่อนๆเห็นว่า ตนถูก ผอ.เรียกไปใช้บ่อย อีกทั้งยังพาออกไปเที่ยวอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทุกอาทิตย์ ผอ.จะพาตนออกไปเดินห้าง ซื้อเสื้อผ้า ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ และพาไปนั่งกินอาหาร ซึ่งทุกครั้ง ผอ.จะบอกครูเวรว่าพาตนไปดูแลลูกชาย ตนจำเป็นต้องไปโดยไม่มีข้ออ้าง ระยะหลัง ผอ.เริ่มจับเนื้อต้องตัวบ่อยครั้งขึ้น เคยเสนอจะส่งตนออกไปเรียนโรงเรียนประจำจังหวัด เนื่องจากตนเป็นเด็กเรียนดี อันดับหนึ่งมาตลอด ในชั้น ม.4 โดยจะเช่าหอพักให้ ซื้อรถ ซื้อโทรศัพท์ แต่ในช่วงที่เรียนอยู่ใน รร.สงเคราะห์ ผอ.จะเปิดบ้านพักครูให้ตนอยู่สักหลัง จะได้อยู่ใกล้ๆอ้างเหตุผลว่ามีปัญหาอะไรจะได้ช่วยเหลือทันท่วงที แต่ตนไม่ยอม จนกระทั่งตนนำเรื่องดังกล่าวปรึกษาผู้ปกครอง จนต้องย้ายหนีไปอยู่ที่ รร.ศึกษาสงเคราะห์จังหวัดนครศรีธรรมราช ในชั้น ม.2 เทอม 2 จากนั้น ผอ.ได้ไปตามหาจนตนวิ่งหนีไม่ยอมเข้าพบ สุดท้ายต้องย้ายไปอยู่ รร.ศึกษาสงเคราะห์จ.สตูล ประกอบกับอยู่ใกล้บ้านกว่า
ทางด้านนางวรรณา หริกแก้ว อายุ 34 ปี บ้านอยู่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เล่าทั้งน้ำตาว่า หลังจากลูกต้องย้ายออกจาก รร.ในจังหวัดพัทลุง มีความลำบากมาก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทุนการศึกษาที่ได้จากเหล่ากาชาดจังหวัดพัทลุงก็ถูกตัด ตนไม่มีเงินแต่ออยากให้ลูกเรียนสูงๆ เมื่อเกิดเรื่องกับ ผอ.ตนได้ร้องเรียนไปยังคุรุสภา เมื่อปีที่แล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มาสอบากลูกสาว 1 ครั้ง สอบตน 2 ครั้ง ก็เงียบไป จนถึงบัดนี้ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ตนอยู่กับความหวาดกลังมาก ก่อนหน้านี้มีโทรศัพท์ลึกลับมาเสนอให้เงินแต่ตนปฏิเสธไป จนถูกตราหน้าว่าจนแล้วไม่เจียม และยังขู่ตบท้ายว่า ผอ.เคยยิงคนทิ้งโดยไม่ต้อเสียเงิน สร้างความหวาดกลัวให้ตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก วอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบพฤติกรรม และตรวจสอบว่า ผอ.สมควรจะอยู่ต่อหรือไม่
ส่วนทางด้านนางจิรภา ขวัญกลับ อายุ 32 ปี อยู่จังหวัดตรัง แม่ของ ด.ช.ปอ นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ลูกชายได้เข้าไปขโมยพระเครื่องของครูไกร และนำไปขายที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจาก โรงเรียนประมาณ 8 กม. จนถูกครูไกรซ้อมอย่างหนัก ทางโรงเรียนโดย ผอ.ปรัธะวินณ์ฯ ได้ส่งลูกชายไปประจำที่โรงเรียนประชาสงเคราะห์จังหวัดพังงา โดยไม่ได้แจ้งให้ผู้ปกครองทราบล่วงหน้า ตนจึงได้ติดต่อไปยัง รร.ดังกล่าว ได้รับคำตอบว่าหลังจากส่งตัวลูกชายแล้วทาง รร.ศึกษาสงเคราะห์ไม่ได้ประสานไปเลย ล่าสุดตนเห็นว่าใกล้วันสอบแล้วจึงเข้าไปสอบถามที่ รร.ศึกษาสงเคราะห์พัทลุง แต่ ผอ.กลับตอบตนว่า ทางโรงเรียนไม่รับ ด.ช.ปอเข้ามาเรียนที่นี่แล้ว เพราะทำความผิดซ้ำซาก แต่อย่างไรก็ตามตนอยากให้ลูกชายได้เรียนที่นี่อีก เพราะจากการที่ตนเคยเป็นศิษย์เก่า มีระเบียบดีมาก แต่เมื่อมีผอ.คนนี้มาบริหาร ระเบียบไม่มีเลย
ส่วนทางด้านนางสาวเจี๊ยบ น้าสาว ด.ช.ปอ เป็นผู้ปกครองรับ – ส่ง ด.ช.ปอ ช่วง รร.ปิดเทอม กล่าวว่า ตนเสียใจกับแหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก คือในคืนที่หลานชายกลับจากไปขายพระที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาประมาณ ตี 2 หรือ ตี 3 ถูกครูไกรซ้อมจนทนไม่ไหว ได้วิ่งออกไปนอกโรงเรียน และเดินเท้าข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทลุง และไม่ได้รับแจ้งเพราะด้วยเหตุเด็กไม่มีหลักฐานติดตัวเลย แต่จะเข้าไปสอบสวนที่โรงเรียนในเช้าวันรุ่งขึ้น จนกระทั่งทาง ผอ.เข้าไปเคลีย เรียบร้อย แล้ว
