ญาตินำศพลูกชายที่ก่อเหตุยิงพ่อสาหัสก่อนยิงตัวเองตายใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี แม่เดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต ร่ำไห้เห็นศพลูก ส่วนพ่ออาการโคม่าอยู่ในห้องไอซียู ผู้ใกล้ชิดครอบครัวไม่เชื่อว่าลูกกล้ายิงพ่อ ทิ้งปมเกิดขึ้นได้อย่างไร
ความคืบหน้าเหตุสะเทือนใจเมื่อ นายวัชระ ชลภักดี อายุ 30 ปี หรือ “ใหม่ บึงทอง” ใช้อาวุธปืนยิง นายอำพล ชลภักดี อายุ 61 ปี บิดาแท้ ๆ บาดเจ็บสาหัสและใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันจ่อหน้าอกตัวเองยิงจนเสียชีวิตเมื่อช่วงดึกคืนที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 26/29 ถนนราษฎร์ยินดี หรือถนนสามสิบเมตร เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งสาเหตุมาจากทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องสุนัขพันธุ์พิทบูลที่ลูกชายนำมาเลี้ยงไว้ในบ้านแต่พ่อไม่ต้องการให้เลี้ยง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (20 มิ.ย.60) ญาติเคลื่อนศพของ นายวัชระ ออกจากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี โดยมีแม่ซึ่งแยกทางกับพ่อ และอาศัยอยู่ใน จ.ภูเก็ต เดินทางมาดูศพของลูกชายด้วยความโศกเศร้า แต่ไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามาจากสาเหตุใด เนื่องจากลูกชายอาศัยอยู่กับพ่อ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเพื่อนสนิทของ นายวัชระ เดินทางมาดูศพและเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วนความคืบหน้าอาการของ นายอำพล ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ยังไม่พ้นขีดอันตรายและต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตจากคนใกล้ชิดกับครอบครัวนี้ ว่า ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเพราะ นายวัชระ รักพ่อมากและไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน จึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะลงมือยิงพ่อแท้ ๆ ของตัวเอง และขณะเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ มีเพียงน้องสาวที่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจึงขึ้นไปดูและพบทั้ง 2 คนถูกยิงนอนกองอยู่กับพื้นแล้ว
ส่วนประเด็นที่ทะเลาะกันเรื่องสุนัขพันธุ์พิทบูลนั้นอาจจะมีส่วนเพราะ นายวัชระ รักสุนัขตัวนี้มากแต่พ่อไม่อยากให้เลี้ยงไว้ในบ้าน แต่ไม่น่าถึงขั้นที่ นายวัชระ ต้องยิงพ่อเพราะสุนัขเพียงตัวเดียว ซึ่งเรื่องนี้ยังคงเป็นปริศนาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หรืออาจจะเกิดจากความไม่ตั้งใจของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ทำให้เรื่องบานปลายจนเกิดเหตุสลดดังกล่าว