เหยื่อทนายความโกงเงินน้องบีม โผล่อีกราย คราวนี้เป็นหญิงม่าย โดนไปเกือบ 1.4 ล้านบาท หลังแต่งตั้งให้เป็นทนายว่าความคดีมรดก แฉสิ้น ทนายอ้อนขอซื้อเบนซ์ เลยใจอ่อนให้เงินไป มิหนำซ้ำยังเป็นคนแนะนำให้ว่าไปความให้แม่น้องบีมอีกด้วย
วันนี้ (3 ก.ค.) น.ส.นิษฐาณัฐ หรือ “แม่นิด” ภัทรธนินนิษฐ์ อายุ 54 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 93 /2 ม.9 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า ได้ถูกนายพสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความตัวแสบที่โกงเงินเด็กหญิงพิการวัย 14 ปี ไปเกือบ 5 ล้านบาท หลอกลวงเอาเงินไปเกือบหนึ่งล้านสี่แสนบาท หลังมอบหมายให้เป็นทนายว่าความคดีมรดก
น.ส.นิษฐาณัฐ กล่าวว่า เมื่อปี 2550 ตนเองรู้จักกับภรรยาทนายพิสิษฐ์ จึงได้ติดต่อว่าจ้างทนายพิสิษฐ์ ช่วยว่าความให้ตนเองเป็นผู้จัดการมรดกของครอบครัวหลังจากพ่อแม่ตนได้เสียชีวิตลง โดยจ่ายค่าว่าจ้างทนายให้ตามปกติ และหลังจากทำคดีของตนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วจึงแนะนำให้ช่วยว่าความให้กับแม่น้องบีม เด็กหญิงพิการ วัย 14 ปี เพราะเชื่อว่าเขาจะช่วยครอบครัวน้องได้
“หลังจากทำคดีเสร็จทนายพิสิษฐ์ได้ติดต่อมาบอกตนว่า ตอนนี้เป็นอาจารย์สอนอยู่สถาบันราชภัฎนครปฐม มีความใฝ่ฝันอยากจบปริญญาเอกเป็นด๊อกเตอร์ แต่ต้องใช้เงินมาก รวมทั้งไม่มีรถยนต์ในการเดินทางไปเรียนหนังสือต่อ เลยเอ่ยปากขอยืมเงินกับญาติๆ ตนไปเป็นเงินกว่าหนึ่งล้านสี่แสนบาท ตนเองเห็นว่าทนายคนนี้พูดจาเพราะน่าเชื่อถือ ไม่น่าจะมีอะไรจึงให้เงินช่วยเหลือไป โดยทนายพิสิษฐ์เองยังแอบไปยืมเงินญาติตนเองอีก 2 ราย เป็นเงิน 950,000 บาท แต่ทราบว่ามีการใช้คืนไปให้ในบางส่วน” น.ส.นิษฐาณัฐ กล่าว
แม่นิด กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนั้นตนเองก็ทวงถามเงินจากเขามาตลอด แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยง เมื่อทวงถามไปทางภรรยา คือ น.ส.พรปวีณ์ ชูแก้ว ก็ปฎิเสธบ่ายเบี่ยงเช่นกัน ก่อนที่จะเปลี่ยนมือถือติดต่อไม่ได้อีกเลยทั้งสองคน
แม่น้องนิดกล่าวด้วยน้ำตาว่า ทุกวันนี้ตนเองกับลูกชาย 3 คน ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเหมือนเป็นตราบาปที่ไปแนะนำให้ทนายคนนี้ช่วยว่าความให้กับครอบครัวของน้องบีม ส่วนตนเองก็เดือดร้อนไม่แพ้กันเพราะลูกชายสองคนไม่มีเงินเรียนต่อ ส่วนคนเล็กที่กำลังเรียนอยู่ก็มีปัญหาเรื่องค่าเทอม ตอนนี้ก็ประกาศขายบ้านที่ได้รับจากมรดกเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว เนื่องจากตนเองไม่มีรายได้อะไร