เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28พ.ย.61พ.ต.ท.เสน่ห์ ยศรุ่งเรือง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแปลง พร้อมด้วยนายอำพล พัชระกุล ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้จังหวัดฉะเชิงเทรา สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจค้นบริษัทสยามไบโอเทคและอุตสาหกรรมเภสัช จำกัด เลขที่ 75/16 ม.3 ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา หลังนายปิติ อ่อนตระกูล ผู้จัดการโรงงานดังกล่าว ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เนื่องจากพบไม้กฤษณาและไม้ต้องสงสัยจำนวนมากซุกซ่อนอยู่
ที่เกิดเหตุพบตู้คอนเทนเนอร์สีแดงขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตู้ อยู่บริเวณด้านหลังโรงงาน กำลังทหารและพนักงานโรงงานได้ช่วยกันขนย้ายขวดแก้วที่อยู่ในลังพาเลซออกมา ก่อนจะพบกองไม้จำนวนมาก ทั้งแบบผง,แผ่นและท่อน จึงได้ทำการลำเลียงออกมาด้านนอก เพื่อนำมาชั่งและตรวจสอบ เบื้องต้นพบไม้กฤษณาและไม้อบเชยป่า ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามและไม้ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง รวมน้ำหนักกว่า 1,000 กิโลกรัม จึงได้ให้เจ้าหน้าที่อายัดไว้เพื่อทำการตรวจสอบหาเจ้าของต่อไป
นายปิติ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีพิพาทกรรมสิทธิ์ครอบครองกรรมสิทธิ์โรงงาน ระหว่างนายเซียว กว๋อกัง และนางสาว ชัชฎาภรณ์ สิงหทะแสน ผู้ถือหุ้นบริษัทฯ บริหารกิจการของบริษัทฯ ได้แยกทางกัน แต่ยังคง บริหารงานร่วมกัน จนเวลาต่อมาต่างฝ่ายต่างมีครอบครัวใหม่ ก่อนจะเกิดปัญหาขึ้นเนื่องจากสามีใหม่ของนางนางสาว ชัชฎาภรณ์ สิงหทะแสน ต้องการเข้ามาบริหารโรงงานเพียงฝ่ายเดียว จนมีการไกล่เกลี่ยกันไปก่อนหน้านี้ ที่ว่าการอำเภอแปลงยาว เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หลังมีทนายชื่อดัง ที่อดีตภรรยาจ้างมานำกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาเพื่อเข้าพื้นที่โรงงาน แต่ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ จนมีคลิปที่มีการท้าทายกับพนักงงานรักษาความปลอดภัยจนเป็นกระแสในสังคมในช่วงที่ผ่านมา กระทั่งการเจรจาไกล่เกลี่ยได้ขข้อยุติให้ทางฝั่งอดีตสามี คือนายเซียว กว๋อกัง เข้ามาบริหารงานภายในโรงงานต่อไป จึงได้ว่าจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยใหม่ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภายในโรงงาน จนมาพบตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัยอยู่บริเวณด้านหลังโรงงาน เมื่อเปิดดูก็พบไม้ที่คาดว่าน่าจะผิดกฏหมาย จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ
นายอำพล พัชระกุล ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้จังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ของกลางที่พบในวันนี้ เป็นไม้กฤษณา ไม้อบเชยป่า และไม้ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มีทั้งแบบผงที่สกัดแล้ว แบบแผ่นและแบบท่อน จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจนับ ก่อนอายัดไม้ทั้งหมดไว้ เพื่อให้เจ้าของเดิม นำหลักฐานการได้มาอย่างถูกต้องมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ หากตรวจสอบแล้วไม่มีเอกสารในการได้มา ก็แจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ว่าด้วยมีของป่าหวงห้ามไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี ส่วนไม้ทั้งหมดนี้จะฝากไว้ยังจุดเกิดเหตุโดยจัดเจ้าหน้าที่ทำการดูแลเพื่อรอการตรวจสอบต่อไป