ภรรยาคนที่ 2 เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองอุดรธานี หลังเผาบ้านสามีจอมเจ้าชู้ อ้างแค้นใจถูกภรรยาคนที่ 3 ทำร้ายก่อน ชี้ยอมติดคุกสบายใจกว่า
จากกรณีวางเพลิงเผาบ้าน 2 ชั้นไม้ครึ่งปูนเลขที่ 39/2 ซ.ดอนอุดม 4 เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของ นายเชษฐา สิทธิศาสตร์ อายุ 40 ปี ยืนมองเจ้าหน้าที่ดับเพลิงฉีดน้ำดับไฟที่กำลังเพลิงไหม้บ้านจนวอด เพลิงได้ลุกลามไปติดบ้านเรือนใกล้เคียงเล็กน้อย พร้อมกับให้การว่า เป็นบ้านที่ได้รับมรดกจากพ่อแม่ แต่ขณะเกิดเหตุได้ไปนอนที่บ้านภรรยาคนที่ 3 ที่บ้านเช่า และมีพยานเห็นมือวางเพลิงคือ น.ส.โสภา แก้วมาตย์ อายุ 43 ปี ภรรยาคนที่ 2 ซึ่งตนได้บอกเลิก และมีการพูดข่มขู่มาก่อนว่าจะเผาบ้าน และก็ทำจริง เหตุเกิดเวลา 04.55 น. วันที่ 23 พฤษภาคม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมาเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (23 พ.ค.60 เวลา 13.00 น.) น.ส.โสภา แก้วมาตย์ อายุ 43 ปี ชาวบ้าน ม.7 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี โทรศัพท์แจ้ง 191 เพื่อติดต่อขอมอบตัวโดย พ.ต.ท.เอกลักษณ์ บุญแสงเจริญ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี เดินทางไปรับตัวที่บ้านก่อนนำตัวส่ง ร.ต.อ.ปฐมพงศ์ ศรีษะพล รองสารวัตรสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหา “วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น”
น.ส.โสภา ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นภรรยาคนที่ 2 ของ นายเชษฐา เจ้าของบ้านซึ่งเป็นช่างรับต่อเติมและซ่อมบ้าน พวกตนอยู่กินด้วยกันฉันท์สามีภรรยาที่บ้านหลังดังกล่าวมาประมาณ 5-6 ปี โดยภรรยาคนที่ 1 รับรู้ว่า นายเชษฐา เจ้าชู้และไม่เคยตามราวี รวมถึงตนเองให้ความเคารพภรรยาคนที่ 1 ตลอด โดยตนอยู่บ้านหลังดังกล่าวกับ นายเชษฐา อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แต่เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา นายเชษฐา กลับดอดไปมีภรรยาคนที่ 3 ซึ่งมีอายุประมาณ 35 ปี และแอบไปเช่าบ้านอยู่ด้วยกันจนไม่ค่อยมาสนใจตนเองเหมือนแต่ก่อน
น.ส.โสภา บอกเพิ่มเติมว่า ตนเองเคยไปตามสามีและภรรยาคนที่ 3 ที่บ้านเช่าแต่สามีกลับไม่สนใจ จึงได้มีปากเสียงและทะเลาะวิวาทตบตีกับภรรยาคนที่ 3 และเคยพลาดถูกภรรยาคนที่ 3 เอาน้ำร้อนสาดใส่หน้าอก และแผ่นหลังจนได้รับบาดเจ็บก่อนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยสามีก็ไม่ได้ช่วยเหลือแถมยังไล่ให้ตนกลับบ้านและไม่เคยมาดูแลตน แต่ตนไม่เคยแจ้งความดำเนินคดีกับสามีและภรรยาคนที่ 3 ทำให้ตนกลุ้มใจจึงต้องดื่มเหล้าแก้กลุ้มมาตลอด
ล่าสุด เมื่อเย็นวานนี้ (22 พ.ค.) ตนได้ดื่มเหล้าย้อมใจก่อนไปหาสามีและภรรยาคนที่ 3 ที่บ้านเช่าเพื่อขอเคลียร์ปัญหารักแต่ตกลงกันไม่ได้ โดยสามีได้เอาท่อนเหล็กตีศีรษะจนสลบ เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมธรรมนำตัวส่งโรงพยาบาลเย็บ 10 เข็ม ในช่วงกลางดึกหลังออกจากโรงพยาบาล ได้ไปหาสามีที่บ้านเช่าอีก ซึ่งสามีได้บอกว่าไม่มีทางกลับไปรักกันเหมือนเดิมอีกแล้ว ทำให้ตนน้อยใจและเสียใจมาก จึงเดินกลับบ้าน แต่ได้แวะซื้อเหล้าดื่มย้อมใจที่บ้านจนหมด 1 ขวด ก่อนนำเศษไม้มาจุดไฟเผาบ้านที่เคยเป็นรังรักมา 6 ปีจนมอดไหม้ไปในพริบตาแล้วเดินไปหลบอยู่บ้านญาติซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะติดต่อขอมอบตัว
น.ส.โสภา ยังบอกอีกว่า ตลอดเวลาที่ถูกสามีและภรรยาคนที่ 3 ทำร้าย ก็ไม่เคยแจ้งความดำเนินคดีเพราะว่าตนเองยังรักสามีอยู่ ถ้าสามีไปมีภรรยาคนใหม่แต่ยังไปมาหาสู่ตนอยู่และไม่ทอดทิ้งก็จะไม่ว่าอะไร แต่นี่สามีไปหนีไปอยู่กับภรรยาคนที่ 3 ไม่สนใจตนเองเลยทั้งที่ภรรยาคนที่ 3 ไม่สวยแถมขายังพิการ มีดีแค่สาวกว่าเท่านั้นเอง แต่พอสามีบอกว่า “ไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว” ทำให้ตนตัดสินใจเผารังรักทิ้ง ยอมติดคุกชดใช้กรรม สบายใจกว่า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมียแค้นผัวเจ้าชู้บอกเลิกย่องเผารังรักวอด โชคดีนอนกับเมียใหม่อีกหลัง