ตลอดการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเห็นได้ว่า นายพู ปิดบังใบหน้าอย่างเต็มที่ จนมีผู้สังเกตว่า สีหน้าไม่สะทกสะท้านเมื่อวานนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง หลังถูกนำตัวกลับมายัง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันยังมีภาพกล้องวงจรปิดปรากฏว่า ก่อนถูกจับ นายพู ยังไม่รู้สึกรู้สา เดินเอ้อระเหยไปหาซื้อเลือกซื้อผ้าเพื่อมาสวมใส่อำพรางตัว
ตามภาพวงจรปิดที่ปรากฏ สังเกตได้ว่า “นายพู” หรือท้าวพูหล้า มือฆ่าปาดคอมีสีหน้ายิ้มแย้มสดใส ไม่สะทกสะท้านแม้เพิ่งก่อเหตุฆ่าคนตายมาถึง 2 ศพ ซึ่งเป็นแค่หญิงสูงอายุและเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ นายพู ยังเดินทอดน่อง ค่อย ๆ หาเลือกซื้อเสื้อผ้าในตลาดแห่งหนึ่ง เพื่อเปลี่ยนเสื้อเป็นเชิ้ตขาวลายดอก ตัวเดียวกับที่ถูกจับกุมมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนที่ นายพู จะขึ้นรถทัวร์เดินทางไปยัง จ.มุกดาหาร เพื่อพยายามหลบหนีข้ามฝั่งไปยัง สปป.ลาว แต่มาถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน
วอนช่วยฟื้นจิตใจน้อง 9 ขวบเหยื่อ “ไอ้พู”
ส่วนความคืบหน้าการสอบปากคำ โชเฟอร์รถทัวร์ที่พานายพูเดินทางไปยังต่างจังหวัด // เบื้องต้นตำรวจยังคุมตัวสอบปากคำอย่างละเอียด โดยโชเฟอร์ ระบุว่า นายพู แจ้งว่าจะกลับบ้านที่มุกดาหาร จึงรับขึ้นรถไป ด้วย แต่เมื่อถึง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด นายพูไม่มีเงินค่าโดยสารมีแต่สร้อยคอทองคอจึงพาไปจำนำในราคา 7,500 บาท และ แบ่งค่าโดยสารให้มา 1,000 บาท ทั้งนี้ตำรวจเร่งสอบปากคำโชเฟอร์รถทัวร์จำนวน 2 คน เพื่อเป็นพยานในคดีนี้
ส่วนความคืบหน้าอาการของ ด.ญ.วัย 9 ขวบ ซึ่งรอดชีวิตจากเหตุฆาตกรรมโหด มีรายงานว่า แม่ของหนูน้อย ซึ่งเป็นลูกสาวของคุณยายวัย 67 ปี ยังคอยดูแลลูกสาวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยขอความร่วมหลายฝ่ายอย่าเข้าไปซักถามหรือรบกวนหนูน้อย เนื่องจากสภาพจิตใจยังได้รับความกระทบกระเทือนเป็นอย่างหนัก ตลอดจนยังไม่สามารถเปล่งเสียงหรือพูดคุยใด ๆ ได้
อย่างไรก็ตาม ครอบครัววอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจหนูน้อย เบื้องต้นทาง อ.พระประแดง ได้ประสานนักจิตวิทยาเข้าฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กหญิง เนื่องจากน้องยังคงเห็นภาพเหตุการณ์ติดตาและมีอาการผวาในเวลานอน