จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ทั่วโลก ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกต่างทรุดหนัก
สำนักข่าว เอ็นบีซี สถานีโทรทัศน์สัญชาติอเมริกัน รายงานว่าการหดตัวของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ของปีนี้ได้สั่นสะเทือน สถานะศูนย์กลางเศรษฐกิจของจีน ขณะที่ไอริส ผาง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำจีนแผ่นดินใหญ่ของไอเอ็นจี สถาบันการเงินระดับโลก ระบุในรายงานเมื่อเดือนมีนาคมว่าเศรษฐกิจจีนจะยังคงเผชิญฝันร้ายต่อไป
อย่างไรก็ดี ผู้มองโลกแง่ร้ายเหล่านี้หลงลืมว่ามรสุมลูกนี้จะพัดผ่านพ้นไปในท้ายที่สุด และจีนที่ครองฐานะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก มีความยืดหยุ่นเพียงพอจะฟันฝ่าวิกฤตนี้ในระยะยาว
ด้วยเหตุนี้ โลกหลังหายนะโรคระบาดจึงสามารถมั่นใจในเศรษฐกิจจีนได้ โดยมีเหตุผลหลัก 4 ประการ ดังนี้
ประการที่ 1 การเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวของจีนยังมั่นคงและมีเสถียรภาพ แม้เผชิญโรคระบาดใหญ่ที่สร้างความเสียหายมากมาย
ประการที่ 2 จีนเก่งกาจในการแสวงหาโอกาสและบ่มเพาะแหล่งการเติบโตอันสดใหม่ในห้วงยามแห่งวิกฤตการณ์ ตัวอย่างเช่นวิกฤตการเงินเอเชีย ปี 1997 (วิกฤตต้มยำกุ้ง พ.ศ.2540) และวิกฤตการเงินโลก ปี 2008
ประการที่ 3 จีนครองบทบาทที่มิอาจมีใครแทนที่ในห่วงโซ่อุปทานโลก รวมถึงเศรษฐกิจเชิงเปรียบเทียบและความได้เปรียบทางการผลิตอันมีอัตลักษณ์ของตนเอง
ประการที่ 4 จีนดำเนินนโยบายที่กว้างขวางครอบคลุมจนเพียงพอจะรองรับผลกระทบของวิกฤตครั้งนี้
ด้วยเหตุนี้ เหล่าสมาชิกประชาคมโลกที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างมากล้นเหลือคณา ควรจับมือกันล่องเรือเศรษฐกิจโลกลำยักษ์ให้ผ่านพ้นคลื่นมรสุมอันเชี่ยวกราก โดยเศรษฐกิจจีนที่มีพลวัตจะร่วมขับเคลื่อนอย่างแข็งขัน
ภาพ : China Xinhua News