สื่อต่างประเทศหลายสำนักได้เกาะติดความเคลื่อนไหวการประชุมของคณะ ประชาชนปลดแอก ที่มีขึ้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา โดยสำนักข่าว รอยเตอร์ส ของอังกฤษรายงานได้รายงานว่ากลุ่มผู้ประท้วงมากกว่า 10,000 คนได้มาร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาล โดยเหตุประท้วงดังกล่าวนับเป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อปี 2014
กลุ่มผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูญและหยุดการคุกคามนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ต่อต้านรัฐบาล
ด้านสำนักข่าวบีบีซี ของอังกฤษได้รายงานว่ามีผู้เข้าร่วมการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลมากกว่า 10,000 คน เรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางการเมืองและสถาบันพระมหากษัตริย์ ทางผู้จัดการชุมนุมหวังว่าการประท้วงในครั้งนี้จะได้แรงสนับสนุนจากกลุ่มคนอื่นๆนอกเหนือจากกลุ่มนักศึกษา และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง โดยการประท้วงดังกล่าวมีตำรวจ 600 นายมาคอยดูแลความปลอดภัย
ด้านเดอะ เทเลกราฟ ของอังกฤษรายงานว่าเหตุประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมมากกว่า 10,0000 คน และได้แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากการประท้วงในฮ่องกง คือไม่มีแกนนำผู้ประท้วง อาศัยการเคลื่อนไหวผ่านทางโซเชียลมีเดียเป็นหลัก โดยเหตุความตึงเครียดทางการเมืองในไทยเริ่มปะทุ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังตำรวจกุมนักศึกษา และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง 3 คน แต่ได้รับการปล่อยตัวโดยมีเงื่อนไขว่าห้ามกระทำผิดซ้ำอีก
เดอะ เทเลกราฟยังระบุว่าความไม่พอใจในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์เริ่มก่อตัวมากขึ้นในช่วงที่ไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเวลาร้ายที่สุดนับแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง ซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด19 ขณะที่ยอดคนว่างงานได้พุ่งสูงนับล้านคน ซึ่งทำให้เห็นปัญหาถึงความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ