บริจาคอสุจิ — เว็บไซต์เดลี่เมล์ของอังกฤษรายงาน โดยอ้างรายงานจากสำนักข่าวโตเดียว ชิมบัน ของญี่ปุ่น ที่รายงานหญิงวัย 30 ปี จากกรุงโตเกียวได้ประกาศทิ้งลูกของตัวเอง ที่เกิดกับผู้บริจาคอสุจิ หลังจากทราบว่าชายที่เป็นผู้บริจาคอสุจิโกหกเธอเรื่องมหาวิทยาลัยที่จบการศึกษา และโกหกเธอว่าเขาเป็นคนญี่ปุ่น ทั้งที่เขาเป็นคนจีน อีกทั้งยังแต่งงานแล้ว ไม่ได้โสดตามที่บอกเธอไว้ก่อนหน้านี้ด้วย
ตามรายงานข่าวยังระบุด้วยว่า โดยหญิงคนดังกล่าวและสามีของเธอที่มีบุตรด้วยกันแล้ว 1 คน พบชายที่บริจาคอสุจิคนดังกล่าวจากในโซเชียลมีเดียเมื่อปี 2019 ซึ่งทั้งคู่ตกลงที่จะมีลูกอีกคนด้วยใช้ผู้บริจาคอสุจิ เนื่องจากผู้เป็นสามีมีอาการป่วยของโรคทางพันธุ์กรรม จึงไม่อยากถ่ายทอดพันธุ์กรมมนี้ไปยังลูก
ด่วน! ประกาศเตือน สึนามิ ในหลายประเทศ หลังภูเขาไฟใต้ทะเลในตองกาปะทุรุนแรง (คลิป)
ทั้งนี้ หญิงสาวคนดังกล่าวได้หลับนอนกับชายผู้บริจาคอสุจิรายนี้ 10 ครั้งเพื่อให้กำเนิดลูก หลังจากนั้นเธอก็ได้ตั้งครรภ์เมื่อเดือนมิ.ย.2019 แต่หลังจากนั้นก็ทราบว่าชายคนดังกล่าวโกหกเรื่องที่เขาเป็นคนญี่ปุ่น แต่สามีภรรยาคู่นี้ก็ทำแท้งไม่ได้ เนื่องจากอายุครรภ์เกินแล้ว ในเวลาต่อมา เมื่อทารกรายนี้ก็ได้คลอดออกมา เธอก็ไม่ขอไม่รับเลี้ยงดู เด็กจึงถูกนำตัวไปไว้ที่ศูนย์ดูแลเด็กในกรุงโตเกียวเพื่อให้มีผู้มารับอุปการะต่อไป
ขณะที่สามีภรรยาคู่นี้ก็ได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากชายผู้บริจาคอสุจิเป็นเงินกว่า 90 ล้านบาทฐานฉ้อโกง และสร้างความทุกข์ทางอารมณ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เขาไปก่อเหตุในลักษณะนี้กับเหยื่อรายอื่นอีก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอเครียดเป็นอย่างมากจนทำให้เธอก็ถึงกับกินนอนไม่ได้ อีกทั้งยังถูกสังคมประณามว่าเป็นแม่ที่ทิ้งลูกด้วย
ทั้งนี้ ในญี่ปุ่นยังไม่มีออกกฎระเบียบควบคุมการบริจาคอสุจิ เนื่องจากคลินิกผสมเทียมนั้นหายาก และเปิดให้บริการเฉพาะผู้หญิงที่แต่งงานแล้วเท่านั้น อีกทั้งธนาคารอสุจิที่ให้บริการในเชิงพาณิชย์ในญี่ปุ่น ที่เพิ่งเปิดเมื่อเดือนเมื่อกลางปีที่ผ่านมาก็มีเพียงแห่งเดียว และมีโรงพยาบาลอีก 12 แห่งให้คำปรึกษาเรื่องการมีบุตร จึงทำให้ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เลือกหาผู้บริจาคอสุจิในโซเชียลมีเดียแทน เนื่องจากมีราคาถูกกว่า แม้ว่าจะมีความเสี่ยงทางกฎหมายและด้านสุขภาพก็ตาม
หลายคนไม่เหงา! เคล็ดลับการรักษาชีวิตคู่ ของสาว TikTok หาแฟนให้สามี อนุญาตให้มีลูกกับใครก็ได้