บริษัท คิริน โฮลดิ้งส์ ผู้ผลิตเบียร์ และเครื่องดื่มรายใหญ่ของญี่ปุ่นได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางธุรกิจทางการค้ากับบริษัท เมียนมาร์ อีโคโนมิก โฮลดิงส์ ผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ของเมียนมา ซึ่งมีบรรดานายพลระดับสูงของเมียนมาเป็นเจ้าของ หลังกองทัพเมียนมากระทำรัฐประหาร และจับตัวนางอองซาน ซูจี มนตรีแห่งรัฐ และเจ้าหน้าที่คนสำคัญของรัฐบาลไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการขัดต่อนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัท
ก่อนหน้านี้ บริษัทเบียร์คิรินของญี่ปุ่นถูกกดดันจากนานาประเทศให้ตัดความสัมพันธ์ทางการค้ากับเมียนมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนได้กล่าวหาเจ้าของบริษัทเมียนมาร์ อีโคโนมิก โฮลดิงส์ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และก่ออาชญากรรมสงครามกับชาวมุสลิมโรฮิงญา
อองซาน ซูจี ถูกตั้งข้อหานำเข้าอุปกรณ์สื่อสาร หลังถูกกองทัพเมียนมารัฐประหาร
แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศจุดยืนหนุนอารยะขัดขืน ต้านรัฐประหารร่วมกับชาวเมียนมา
ภายในแถลงการณ์ของบริษัทเบียร์คิรินได้แสดงความเป็นห่วงอย่างมาก จากการที่กองทัพเมียนก่อรัฐประหาร โดยเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ทางบริษัทจึงมีความจำเป็นต้องยุติความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับเมียนมาโดยเร็วที่สุด
ไป๋ ทากุล นายแบบเมียนมา ประกาศจุดยืนร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ ติดโบว์แดง ชู 3 นิ้วต้านรัฐประหาร
ขณะที่ บรรดากลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งในเมียนมาและในต่างประเทศต่างยกย่องการตัดสินใจถอนตัวทำธุรกิจของบริษัทคิริน ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่ากองทัพเมียนมาไม่มีความชอบธรรมในการทำรัฐประหาร อีกทั้งยังคงเดินหน้าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และก่ออาญชากรรมต่อมนุษยชาติ
ทั้งนี้ คิรินได้เข้าถือหุ้นบริษัทเมียนมาร์ อีโคโนมิก โฮลดิงส์ ในปี 2015 อย่างไรก็ดี คิรินมีส่วนแบ่งในตลาดของเมียนมา คิดเป็นสัดส่วนเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ แต่มีการเติบโตในตลาดเมียนมาอย่างต่อเนื่อง