จากกรณีเหตุระเบิดใน เลบานอน สองครั้งซ้อน บริเวณท่าเรือเบรุตในวันที่ 4 ส.ค. โทนี รามี ประธานสมาคมเจ้าของกิจการร้านอาหารในเลบานอน ประกาศว่าเหตุระเบิดใหญ่ดังกล่าว ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.11 หมื่นล้านบาท)
รามีเปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า “เราสูญเสียการลงทุนที่สั่งสมมาทั้งชีวิตของเรา”
ทำความรู้จัก เลบานอน ประเทศเล็กที่เต็มไปด้วยร่องรอยอารยธรรม
เลบานอน ก่อม็อบไล่รัฐบาล ฐานปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุระเบิด ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเฉียด 140 ราย
ทางด้าน ปิแอร์ อัชคาร์ ประธานสมาคมเจ้าของกิจการโรงแรมในเลบานอน เผยกับสำนักข่าวซินหัวว่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจ หมายรวมถึงทั้งทางตรงและทางอ้อม อาจมีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.11 หมื่นล้านบาท)
อัชคารอธิบายว่าความสูญเสียทางตรงหมายรวมถึงโรงแรมที่ได้รับความเสียหาย ขณะความสูญเสียทางอ้อมครอบคลุมกรณีผู้ประกอบการไม่สามารถจ่ายเงินเดือนแก่พนักงาน หรือไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
ประมวลภาพ ระเบิดเลบานอน แรงสุดรองจากนิวเคลียร์ฮิโรชิมา
เดิมภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของเลบานอนประสบปัญหามากพอตัวอยู่แล้ว เหตุมาจากการประท้วงทั่วประเทศเมื่อปี 2019 ตามมาด้วยการระบาดของโควิด19 ซึ่งจริงๆ แล้วในช่วงฤดูร้อนนั้นเลบานอนหวังดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและการล่มสลายทางการเงินที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากจำต้องอยู่ภายใต้ความยากจน