คณะวิจัยรับสมัครผู้เข้าร่วมทดลองวัยผู้ใหญ่จากสหรัฐฯ และแคนาดา จำนวน 821 คน ที่เคยสัมผัสติดต่อกับผู้ป่วยโรค โควิด-19 โดยผู้เข้าร่วมทดลองทุกคนถูกสุ่มให้ได้รับยาไฮดรอกซีคลอโรวินหรือยาหลอกเป็นเวลา 5 วัน
คณะวิจัยพบว่าผู้เข้าร่วมทดลองที่ได้รับยาไฮดรอกซีคลอโรวิน 49 จาก 414 คน หรือร้อยละ 11.83 ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับยาหลอก 58 จาก 407 คน หรือร้อยละ 14.25 หลังการทดลอง 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตามผลข้างเคียงที่พบในกลุ่มผู้ที่ได้รับยาไฮดรอกซีคลอโรควินนั้นมากกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอกอยู่ที่ร้อยละ 40.1 ต่อ 16.8 แต่ยังไม่มีรายงานพบผู้ที่มีผลข้างเคียงรุนแรง
ทั้งนี้ ผลการทดลองได้รับการเผยแพร่ในวารสารนิวอิงแลนด์เจอนัลออฟเมดิซีน (New England Journal of Medicine)
ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่าเขาใช้ยาไฮดรอกซีคลอโรควินเป็นยาป้องกันโรคโควิด-19 แต่องค์การอาหารและยา (FDA) ได้ประกาศเตือนเมื่อปลายเดือนเมษายนว่าไม่อนุญาตให้ใช้ยาดังกล่าวนอกโรงพยาบาล เนื่องจากความเสี่ยงต่อปัญหาหัวใจเต้นผิดจังหวะ
ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) มหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ รายงานว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวม 6,511,713 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 386,073 ราย เมื่อนับถึงเวลา 12.30 น. ของวันพฤหัสบดี (4 มิ.ย.) ตามเวลาประเทศไทย
ผลการทดลองทางคลินิกแบบสุ่มครั้งแรกของยาไฮดรอกซีคลอโรควินสำหรับการป้องกันหลังสัมผัสกับโรคโควิด-19 ซึ่งนำโดยมหาวิทยาลัยมินนิโซตา (University of Minnesota) ของสหรัฐฯ เมื่อเดือนมีนาคม ชี้ให้เห็นว่ายาต้านมาลาเรีย “ไฮดรอกซีคลอโรควิน” (Hydroxychloroquine) ไม่มีประสิทธิผลเชิงสถิติในการป้องกันการติดเชื้อสำหรับผู้ที่สัมผัสโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
ภาพ China Xinhua News