สำนักข่าวรอยเตอร์สของอังกฤษรายงาน โดยอ้างผลวิจัยทางการแพทย์ 2 แห่ง ที่ระบุว่า วัคซีนโมเดอร์นา มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด19สายพันธุ์เดลต้าได้ดีกว่าวัคซีนไฟเซอร์
ทั้งนี้ ผลวิจัยแรกเป็นผลวิจัยที่ตีพิมพ์ลงบนเว็บไซต์ medRxiv ที่ตีพิมพ์ผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นการเก็บข้อมูลศึกษาจากผู้ป่วยกว่า 50,000 คน ในระบบของสุขภาพของเมโย คลินิกในสหรัฐฯ ซึ่งทีมนักวิจัยพบว่าวัคซีนโมเดอร์นามีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด19สายพันธ์เดลต้าลดลง เหลือ 76 เปอร์เซ็นต์ จากเดิม 86 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เชื้อโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวมีการแพร่ระบาดในสหรัฐฯ
ขณะที่วัคซีนของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด19สายพันธุ์เดลต้าลดเหลือเพียง 42 เปอร์เซ็นต์ จากเดิม 76 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ แม้ว่าทั้งวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นาจะเป็นวัคซีน ที่มีประสิทธิภาพในการลดอัตราการนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลหากติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้า แต่แพทย์ก็แนะนำว่าผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์ครบ 2 โดส ควรเข้ารับการฉีดเข็มกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 โดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ส่วนผลการศึกษาจากสถาบันวิจัยลูเนนฟิลด์-ทาเนนบัม ที่มีการเก็บข้อมูลที่บ้านพักคนชราในรัฐออนแทรีโอของแคนาดาก็แสดงให้เห็นว่าวัคซีนโมเดอร์นามีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิดที่มีการกลายพันธุ์ได้ดีกว่าวัคซีนไฟเซอร์ ส่วนผู้สูงอายุอาจจำเป็นต้องได้รับการฉีดเข็มกระตุ้นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากการวิจัยยังระบุด้วยว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์มาแล้ว 5 เดือน หรือนานกว่านั้นมีโอกาสจะติดเชื้อโควิด19 มากกว่าผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ถึง 5 เดือน ซึ่งทางไฟเซอร์จึงแนะนำว่าควรฉีดวัคซีนกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 ภายใน 6 ถึง 12 เดือน เพื่อรักษาภูมิคุ้มกันโควิดให้อยู่ในระดับที่สูงที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
โมเดอร์นา เผยวัคซีน มีประสิทธิภาพป้องกันโควิด 93% นาน 6 เดือน หลังฉีดครบ 2 โดส
โมเดอร์นา เตือนอาจส่งวัคซีนให้ลูกค้า ที่อยู่นอกสหรัฐฯ ล่าช้ากว่ากำหนดเดิม