แฮร์รี รอกเก (Harry Roque) โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีของ ฟิลิปปินส์ แถลงกรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศและพื้นที่เสี่ยงสูงอีก 2 แห่ง จะยังคงมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดฉบับปรับปรุง ไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค. เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
เนื่องจากมีการรายงานยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ตัดสินใจกำหนดให้กรุงมะนิลา จังหวัดลากูนาทางตอนใต้ของมะนิลา และเมืองเซบูทางตอนกลางของประเทศ ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ต่อไป
ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ส่วนใหญ่ถูกพบในพื้นที่มหานครมะนิลาหรือเมโทรมะนิลา (Metro Manila) ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนเกือบ 13 ล้านคน ด้านกระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ (DOH) เผยว่าเมโทรมะนิลามีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวม 6,993 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 65 ของผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันทั้งหมดในประเทศ ซึ่งขณะนี้แตะ 11,086 รายแล้ว
ทั้งนี้ ดูแตร์เตบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เมโทรมะนิลาเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเดิมทีมีกำหนดสิ้นสุดมาตรการช่วงกลางเดือนเมษายน แต่ได้ขยายเวลามาแล้ว 2 ครั้ง ล่าสุดคือบังคับใช้จนถึงวันที่ 15 พ.ค. สืบเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง