นายกรัฐมนตรีร่วมทดสอบประคตคาดเอวเพื่อวัดเส้นรอบเอว หวังรณรงค์ดูแลสุขภาพของพระสงฆ์ก่อนช่วงเข้าพรรษา
เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลรามาธิบดี เครือข่ายลดเค็ม สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) และกระทรวงสาธารณสุข จัดกิจกรรมรณรงค์ “สงฆ์ไทยไกลโรค เข้าพรรษานี้ อย่าลืมตักบาตร ถาม (สุขภาพ) พระ” โดยจัดตัวอย่างอาหารใส่บาตรยอดนิยมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ และอาหารใส่บาตรแนะนำที่ดีต่อสุขภาพ พร้อมกับนำเสนอนวัตกรรมเครื่องตรวจวัดความเค็มในอาหาร และประคดคาดเอวรอบรู้ในการวัดเส้นรอบเอวเพื่อป้องกันสุขภาพของพระภิกษุสงฆ์ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมทดสอบประคตคาดเอวเพื่อวัดเส้นรอบเอว
นพ.ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะในองค์กร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากการสำรวจร้านค้าที่จำหน่ายอาหารใส่บาตรตามเส้นทางบิณฑบาตของพระสงฆ์ในวัดใหญ่ใจกลางกรุงเทพ โดยโครงการสงฆ์ไทยไกลโรค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า อาหารใส่บาตรส่วนใหญ่เป็นอาหารที่มีไขมันสูง โปรตีนและผักน้อย เมนูยอดนิยมได้แก่ แกงเขียวหวาน แกงเทโพ ปลาดุกผัดเผ็ด ไข่พะโล้ ข้าวขาว และขนมหวานไทย ส่งผลให้เกิดโรคในพระภิกษุสงฆ์ที่พบส่วนใหญ่อย่างไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคปอด หัวใจและหลอดเลือด จึงมีข้อแนะนำอาหารใส่บาตรเพื่อสุขภาพสำหรับพระสงฆ์ ได้แก่ เมนูปลา ผัก และน้ำปานะหวานน้อยเพิ่มโปรตีน เช่น นมพร่องมันเนยหรือนมถั่วเหลืองหวานน้อย ทั้งนี้จึงได้ผลิตชุดความรู้สงฆ์ไทยไกลโรค โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในการให้ความรู้แก่พระสงฆ์และฆราวาสในการสร้างเสริมสุขภาพที่ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย
นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ หัวหน้าสาขาวิชาโรคไต โรงพยาบาลรามาธิบดี ประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า อาหารแห้งที่ฆราวาสนิยมถวายให้กับพระสงฆ์คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและโจ๊กถ้วย ซึ่งพบว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีปริมาณโซเดียมสูงสุดถึง 1,200-2,000 มิลลิกรัมต่อซอง ตามด้วยโจ๊กถ้วย มีโซเดียมเฉลี่ย 800-1,100 มิลลิกรัมต่อถ้วย ซึ่งในแต่ละวันร่างกายไม่ควรบริโภคปริมาณโซเดียมเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน จึงไม่ควรใส่เครื่องปรุงเต็มซองหรือฉันน้ำซุป เพราะหากร่างกายได้รับปริมาณโซเดียมสูงจะทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นโรคอันดับ 2 ของพระสงฆ์ไทยและระยะยาวจะเกิดอาการไตเสื่อมในที่สุด
