“บิ๊กตู่”โต้ไม่ได้กลัวถูกอภิปรายในสภาฯ ยันถวายสัตย์ฯครบถ้วน เผยฟังฝ่ายกฎหมายบอกต้องระวังให้มากที่สุด
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ 7 พรรคฝ่ายค้านยื่นเรื่องต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงประเด็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ไม่ครบถ้วนด้วยถ้อยคำตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ว่า เป็นเรื่องของกลไกรัฐสภา ซึ่งตนก็เคารพ ขอให้เป็นขั้นตอนตรงนั้นไป โดยทุกครั้งที่ตนไม่ได้ไปตอบกระทู้ถามในสภาฯ เพราะมีภารกิจที่กำหนดล่วงหน้าอยู่แล้ว และมีตารางงานล่วงหน้าทุกวันจึงไปตอบไม่ได้ หากมีการตั้งกระทู้ถามขึ้นมาใหม่ก็ต้องดูว่าจะไปตอบได้หรือไม่ โดยวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนไปเยี่ยมผู้พิการทางสายตา ไม่ได้ว่างมากที่จะไปเตะฟุตบอล ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน ขอให้ช่วยกันด้วย เพราะไม่ได้ไปแค่เตะฟุตบอลและชักเยอเท่านั้น แต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์ ที่รัฐบาลดูแลและไม่ทอดทิ้งผู้พิการทางสายตา และได้นำครม.ไปดูด้วย เพื่อกำหนดแผนงานโครงการต่างๆ ซึ่งต่อไปตนจะไปตรวจเยี่ยมเกี่ยวกับภัยแล้ง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หากฝ่ายค้านยื่นญัตติจะไปตอบในสภาฯหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่ท่าน ส่วนที่นายชวนระบุว่าจะเป็นตั้งกระทู้ถามหรือการอภิปราย นายกฯ จะต้องไปตอบนั้น ยืนยันว่าตนเคารพประธานสภาฯอยู่แล้ว และตนจะกลัวเขาทำไมในกรณีฝ่ายค้านระบุว่านายกฯกลัวสภาและกลัวการอภิปราย ซึ่งตนไม่กลัวอะไรทั้งนั้นเมื่อถามย้ำว่าฝ่ายค้านจึงอยากให้นายกฯ ไปชี้แจงจะได้หาทางออกร่วมกันนั้น ตนเชื่อมั่นว่าทำครบถ้วนกระบวนการอยู่แล้ว เรื่องอื่นๆก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนจะเร่งเคลียร์คิวเข้าสภาฯเมื่อใดนั้น ตนก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะตั้งกระทู้รึเปล่า จะอภิปรายรึเปล่า ก็ไปว่ากันอีกทีล่ะกัน ยืนยันว่ามีขั้นตอนของตนอยู่แล้วในการแก้ปัญหา ซึ่งตนมีฝ่ายกฎหมาย ดังนั้นก็ต้องฟังอะไรที่จะมีผลกระทบไปอื่นๆต้องระวังให้มากที่สุด เข้าใจไหม เพราะเรื่องนี้ตนกระทำต่อหน้าพระพักตร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้เข้าใจให้ตรงกัน
ส่วนการเมืองในวันนี้ทำให้รัฐบาลเป๋ไปเป๋มาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยเป๋ ไม่เห็นเป๋อะไรเลย ยังเดินเข้มแข็ง เดินตรงทางตลอด ไม่มีหกล้ม แต่วันนั้นหกล้มกับเด็กก็เตะบอล ไปหาว่าตนซวนเซ แล้วจะไปเตะแรงๆกับเด็กได้หรือไม่ และไม่รู้ว่าการเมืองได้เปลี่ยนไปหรือไม่ ให้พวกเราช่วยกันวิเคราะห์วิจารณ์ ก็ดูในโซเชียลมีเดียและการพูดในสภาฯ เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้แก้ที่ตน ต้องแก้ที่ประชาชนว่าจะทำอย่างไร ขอให้ช่วยกันทุกคน
