ระหว่างที่นายกรัฐมนตรี เดินดูความเรียบร้อยจุดองค์การสะพานปลารับฟังการสาธิตการใช้เครื่องสแกนม่านตา โดยสอบถามอธิบดีกรมการจัดหางานว่าเหตุใดแรงงานถึงขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวล่าช้า ซึ่งอธิบดีจัดหาแรงงาน ระบุว่า เครื่องสแกนม่านตาไม่เพียงพอ ทำให้ นายกรัฐมนตรีถึงไม่พอใจ และกล่าวด้วยน้ำเสียงโมโหว่า ทำไมไม่จัดซื้อ
เรื่องนี้อธิบดีกรมการจัดหางานต้องรับผิดชอบ
น้ำเสียงดุดัน ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังสอบถามนายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ถึงสาเหตุที่การขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวเป็นไปด้วยความล่าช้า ซึ่งอธิบดีกรมการจัดหางาน ระบุว่า เครื่องสแกนม่านตามีจำนวนไม่เพียงพอ ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ แสดงอารมณ์หงุดหงิด พร้อมทุบโต๊ะระบายอารมณ์ และกล่าวด้วยน้ำเสียงโมโหว่า
“ทำไมไม่จัดซื้อ แล้วบอกเครื่องมือไม่พอ มันควรจะเสร็จตั้งแต่ชาติที่แล้ว ทำทุกวิถีทางแล้วเหลืออย่างเดียวให้นายกฯลงมาทำเอง และที่เสียงดังไม่ได้หงุดหงิด แต่ต้องการให้งานสามารถเดินหน้า และงานนี้ต้องเสร็จภายในเดือนมิถุนายน ผู้ประกอบการต้องนำแรงงานนต่างด้าวมาขึ้นทะเบียนได้เรียบร้อย และจะไม่มีผ่อนผันอีกต่อไป”
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุด้วยว่า การจัดตั้งเครื่องสแกนม่านตา ตนเองสั่งมานานแล้ว จึงต้องกวดขันและให้เร่งดำเนินการเร็วขึ้น วันนี้ที่ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง เพื่อให้ต่างประเทศและไอยูยู หรือ กฎระเบียบว่าด้วยการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงาน และไร้การควบคุม เห็นว่า รัฐบาลพยายามหามาตรการแก้ไขประมงผิดกฏหมาย พร้อมย้ำว่า ไม่ได้มุ่งหวังให้ประชาชนเดือดร้อน แต่เป็นกติกาสากล ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะประเทศไทย ในอาเซียนก็ถูกจับตาเช่นเดียวกัน ขอประชาชนอย่าต่อต้านรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมาย ต้องมาร่วมมือกันรักษาผลประโยชน์ของประเทศ เพราะมีรายได้จากการทำประมงกว่า 2 แสนล้านบาท หากทำไม่ถูกต้องเราก็จะไปขายใครไม่ได้