“พงศ์เทพ” ลั่นหาก “เพื่อไทย” ได้เป็นรัฐบาล ไม่มีนิรโทษกรรมเหมาเข่งแล้ว ฉะ กกต.แบ่งประหลาด จ้องลดเก้าอี้ ส.ส. พร้อมจับมือพรรคอื่นรื้อแก้”รธน.” สวน “ธนกร” ส่อรู้เรื่อง “หญิงหน่อย” ปูดเอือม “เฉลิม”
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวในรายการ “ทุบประเด็น” ทางสถานีโทรทัศน์ไบรท์ทีวีช่อง 20 ว่า ขณะนี้คณะกรรมการสรรหากำลังพิจารณารายชื่อผู้สนใจลง ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ ก่อนนำมาเสนอกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยพิจารณา เชื่อว่ากระบวนการต่าง ๆ จะแล้วเสร็จก่อนวันรับสมัคร 5-7 วัน ขณะที่การแบ่งเขตการเลือกตั้งใหม่เป็นเรื่องประหลาด ไม่ค่อยมีเหตุผลว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แบ่งเขตแบบนี้ได้อย่างไร อาจจะตรงกับความต้องการของพรรคการเมืองบางพรรคที่สนับสนุนผู้มีอำนาจในขณะนี้หรือไม่ แต่ถึงแม้พรรคเพื่อไทยจะกระทบบ้าง แต่ส่วนใหญ่ไม่กังวล เพราะพรรคเพื่อไทยเคยชนะยกจังหวัดมาแล้ว ถึงจะสลับเขตอย่างไรก็มีความมั่นใจ นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยมี ส.ส.เขตจำนวนมาก ทำให้ผู้ที่ลงสมัครแบบเขตกับพรรคเพื่อไทยไม่ได้ก็ต้องไปหาพรรคอื่น หรือพรรคไทยรักษาชาติ เพราะระบบการเลือกตั้งแบบนี้ถูกออกแบบเพื่อต้องการลด ส.ส.พรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ซึ่งแตกต่างจากนานาประเทศ ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จะอยู่ในรายชื่อบัญชีนายกฯหรือไม่ อยู่ที่คณะกรรมการสรรหาพิจารณา
“ส่วนการลงพื้นที่ของไทยรักษาชาติและเพื่อไทย เชื่อว่าขณะนี้คงมีหลายพรรคการเมือง มาเเข่งขันไม่น้อยกว่า 20 พรรค แต่ไม่มีปัญหาอะไร เพื่อไทยพร้อมจะแข่งทุกพรรคภายใต้กติกาที่เป็นธรรม และเชื่อมั่นประชาชนว่าสิ่งที่ทำนโยบายมาตลอด สามารถปฏิบัติได้จากคนจากพรรคเพื่อไทย”นายพงศ์เทพ กล่าว
นายพงศ์เทพ กล่าวต่อว่า ขณะที่ท่าทีของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทยนั้น จะติดตามตรวจสอบเข้มข้นอยู่แล้ว ถือเป็นสไตล์ของ ร.ต.อ.เฉลิมต้องนำเสนอตามสไตล์แบบนี้ โดยเรื่องการตรวจสอบทุจริตก็ต้องเอาจริงเอาจัง ขณะที่การท้าทายระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิมกับพรรคพลังประชารัฐนั้น ไม่ใช่เรื่องจำเป็นเพราะบางครั้งนักการเมืองหยิบประเด็นมาคุยทับกันบ้าง แต่ยืนยันไม่ได้สนใจข่าวแบบนี้ แต่ที่นายธรกร วังบุญคงชนะ จากพรรคพลังประชารัฐ ออกมาบอกว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เอือม ร.ต.อ.เฉลิมนั้น นายธนกรจะมารู้ดีเรื่องคุณหญิงสุดารัตน์ได้อย่างไร ที่จริงแล้วนายธนกรอาจจะรู้เรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมากกกว่าหรือไม่
นายพงศ์เทพ กล่าวอีกว่า ขณะที่เรื่องนโยบายพรรคเพื่อไทยในการหาเสียงนั้น ยังมองไปที่เรื่องปัญหาเศรษฐกิจจากคนรากหญ้า คนชั้นกลาง และผู้ค้าทุกระดับที่เดือดร้อนมาก รวมถึงพืชผลการเกษตรตกมาก จากปัญหาการผูกขาดเป็นการรวยกระจุกจนกระจาย และมีการดำเนินนโยบายผิดพลาด อาทิ เรื่องประมง แต่พรรคเพื่อไทยจะนำนโยบายเสนอต่อ กกต.ก่อนเสนอไปยังประชาชน เพราะพรรคเพื่อไทยถูกจับตามากกว่าพรรคอื่น เนื่องจากมีการใช้กระบวนการ 2 มาตรฐานกับเพื่อไทย ส่วนเรื่องสวัสดิการต่าง ๆ ได้ทำมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย โดยเฉพาะ 30 บาทรักษาทุกโรคก็ทำมาตลอด แต่การให้สวัสดิการเพื่อช่วยเหลือคนจนนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องทำอย่างไรต้องให้ประชาชนยืนได้อย่างแข็งแรงด้วยตัวเอง
นายพงศ์เทพ กล่าวด้วยว่า ด้าน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยคิดนโยบายตั้งแต่พรรคไทยรักไทยจนได้รับความนิยม โดยอดีต ส.ส.ก็คุ้นเคยเพราะเคยทำงานด้วยกัน จึงหยิบนโยบายมาใช้จากความนับถือกันอยู่ แต่นายทักษิณไม่อิทธิพลจะมาสั่งกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยได้ ยืนยันว่าปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องเร่งด่วน ส่วนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญต้องค่อย ๆ แก้กันไป เพราะเชื่อว่าประชาชนอยากให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจก่อน และต้องฟังเสียงพรรคการเมืองอื่นด้วยว่าพร้อมจะร่วมกันแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ หรืออาจทำไปควบคู่กันไป ส่วนเรื่องนิรโทษกรรมนั้นเชื่อว่าจะไม่มี ยกเว้นประชาชนจะเรียกร้องว่ามีคดีอาญา อาทิ คนปิดสนามบินมีความผิดหมด การชุมนุมที่สนามหลวงก็ผิดกฎหมาย แต่เรื่องเหมาเข่งไม่มีแน่นอน
“การเมืองไทยหลังการเลือกตั้ง หากพรรคไหนจะจัดตั้งรัฐบาลภายใต้กติกาที่เป็นปัญหาโดยองค์กรอิสระที่มาจากแม่น้ำ 5 สาย การบริหารประเทศอาจไม่ราบรื่นเท่าที่ควร ดังนั้นประชาชนต้องตัดสินใจว่า หากต้องให้กติกายึดกับประชาชนมากขึ้นควรจะเลือกพรรคการเมืองในซีกไหน”นายพงศ์เทพ กล่าว