สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร) ทรงลงพระนามในประกาศมหาเถรสมาคม (มส.) เรื่อง ห้ามใช้วัดเป็นสถานที่ชุมนุม หรือสัมมนา หรือจัดกิจกรรม ที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบ และความแตกแยกขึ้นในสังคม
โดย ระบุว่า ด้วย มส.ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 ส.ค.61 ได้รับทราบพฤติการณ์ว่า มีการใช้อาคาร สถานที่ และพื้นที่ของวัด เป็นสถานที่จัดชุมนุม ประชุม สัมมนา เสวนา หรือกิจกรรมที่มีลักษณะ หรือเนื้อหาที่อาจเป็นการละเมิดกฎหมาย หรือกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือใช้จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งมีลักษณะเป็นการขัดคำสั่ง มส.ลงวันที่ 2 ม.ค.2538 เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ.2538 อันเป็นการใช้สถานที่วัดผิดไปจากวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์เฉพาะการทำสังฆกรรม กิจกรรมทางพระพุทธศาสนา การคณะสงฆ์ การสาธารณสงเคราะห์ การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และการเสริมสร้างความสามัคคีของประชาชน
จึงมีมติให้ประกาศดังต่อไปนี้
1.ให้พระสังฆาธิการปฏิบัติและกวดขันมิให้พระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง ตามคำสั่ง มส.ลงวันที่ 2 ม.ค.2538
2.ห้ามเจ้าอาวาสใช้ ยินยอม หรืออนุญาตให้ใช้วัดเป็นสถานที่จัดชุมนุน ประชุม สัมมนา เสวนา หรือมีกิจกรรมที่มีลักษณะหรือเนื้อหาที่อาจเป็นการละเมิดกฎหมาย หรือกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือให้ใช้จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง
3.หากมีผู้มาใช้วัดเป็นสถานที่จัดกิจกรรมดังกล่าวในข้อ 2 โดยพลการ ให้เจ้าอาวาสเข้าป้องกัน ห้ามปราม หรือระงับ มิให้มีการจัดกิจกรรมนั้นในวัดต่อไป ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นให้ขออารักขาจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
มีรายงานว่า การที่สมเด็จพระสังฆราช ทรงลงพระนามออกประกาศมหาเถรฯ ดังกล่าว สืบเนื่องจากในการประชุมมหาเถรฯ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. และวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา กรรมการมหาเถรฯ ได้มีการหารือถึงกรณีที่ใกล้จะมีการเลือกตั้งตามแผนโรดแมปของรัฐบาล จึงเกรงว่าจะมีนักการเมืองอาศัยพื้นที่วัดในการหาเสียง จำเป็นต้องออกประกาศมหาเถรฯ แจ้งไปยังคณะสงฆ์ทั่วประเทศอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม มหาเถรฯ ไม่ได้ห้ามกรณีที่หากจะมีนักการเมืองเข้าไปทำบุญในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนการเลือกตั้ง แต่หากเมื่อทำบุญเสร็จแล้ว มีการกล่าวเชิญชวนประชาชนให้ไปเลือกเบอร์ของตัวเอง ขอให้เจ้าอาวาสวัดเข้าไปห้ามปรามโดยทันที