“อภิสิทธิ์” แฉพลังดูดแลกแบ่งเขตเลือกตั้ง อัดคสช.ขวางกกต. หวั่นลดความน่าเชื่อถือ จี้กกต.พิสูจน์ทำหน้าที่
วันที่ 19 พ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกาศการเลือกตั้งครั้งนี้จะได้ส.ส. 350 เสียงว่า คงได้ส่งคนลงสมัครส.ส. 350 คน ถ้าคนฟังจะฟังไม่ผิด เพราะคนที่พูดก็คงพูดผิด ส่วนจะเป็นความได้เปรียบของพรรคพลังประชารัฐจากที่เป็นรัฐบาลหรือไม่นั้น อยู่ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลว่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีในการทำงานการเมืองโดยไม่ให้ใช้อำนาจรัฐเข้ามาเอาเปรียบหรือไม่ เพราะเป็นสาเหตุหนึ่งที่เป็นวิกฤตทางการเมืองของประเทศไทยถึงปัจจุบัน ถ้า คสช.และรัฐบาลไม่ยึดถือหลักการนี้ อยู่ที่ประชาชนว่าจะยอมรับพฤติกรรมหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ความน่าเชื่อถือของการเลือกตั้งเป็นเรื่องสำคัญมาก ล่าสุด คสช.เข้ามาเกี่ยวข้องกับการแบ่งเขตเลือกตั้ง จะเป็นตัวบั่นทอนความน่าเชื่อถือของการเลือกตั้ง อยากให้คสช.และรัฐบาลยึดระบบในประเทศระยะยาวเป็นหลัก ไม่ให้ถฝประเทศไทยวนเวียนอยู่ในวัฏจักรความวุ่นวาย มั่นใจว่าประชาชนจับตาดูอยู่ และคงไม่ชอบการเอาเปรียบ หรือการไปยุ่งเกี่ยวกับกติกา การกำหนดกฎเกณฑ์ในการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ คสช.ยืนยันจะต้องแบ่งเขตเลือกตั้งให้เสร็จก่อนฎหมายส.ส.บังคับใช้ในวันที่ 11 ธ.ค. ดังนั้นยังไม่เห็นอะไรต้องเลื่อนการเลือกตั้ง จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ว่า ถึงแม้คำสั่งคสช.ที่ออกมาเหมือนจะให้การคุ้มครองทุกอย่าง แต่กกต.ต้องพิสูจน์ความเป็นอิสระและความเป็นมืออาชีพว่าการแบ่งเขตเลือกตั้ง กฎหมายกำหนดเอาไว้ชัด ไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่สอดคล้องกับกฎหมาย
“เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมีคนมาต่อรองกับอดีตส.ส. พยายามเอาเรื่องนี้มาต่อรองว่าถ้าไปอยู่พรรคนั้นจะแบ่งเขตเลือกตั้งให้แบบนี้ แต่ถ้าไม่อยู่ ก็จะแบ่งเขตให้อีกแบบหนึ่ง สิ่งเหล่านี้ทำให้สงสัยว่าอำนาจการแบ่งเขตเลือกตั้งที่เป็นของ กกต. ทำไมจึงมีคนกล้าที่จะมาอ้างว่าสามารถที่จะเข้าไปมีอิทธิพลหรือไปแทรกแซงได้ คำสั่งคสช.ที่ออกมา หากการแบ่งเขตเป็นไปลักษณะที่ว่าจะบั่นทอนความเชื่อถือของการเลือกตั้งอย่างมาก”นายอภิสิทธิ์ กล่าว