จากกรณีกระทรวงการคลังมีคำสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว กรมบังคับคดีได้ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มูลค่า 3.5 หมื่นล้าน โดยเฉพาะบ้านที่ซอยนวมินทร์ 111 ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่มีมูลค่าสูงถึงกว่า 110 ล้านบาทก็ถูกยึดด้วย ซึ่งทางทนายความอดีตนายฯยิ่งลักษณ์ ที่หนีคดีอยู่ในขณะนี้ก็ทราบเรื่องแล้ว บอกผ่านทนายว่าไม่กังวล
สำหรับการยึดอายัดทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กรมบังคับคดีได้ดำเนินการยึดตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว จนถึงขณะนี้รวมแล้วมากกว่า 30 รายการ บ้านใน กทม. ที่ดินทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด รวมประมาณ 12 แปลง, ห้องชุดในคอนโดมิเนียม และบัญชีเงินฝากประมาณ 12-13 บัญชี ซึ่งมีเงินเป็นหลักล้านบาท รวมถึงบ้านที่ซอยนวมินทร์ 111 ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่มีมูลค่าสูงถึงกว่า 110 ล้านบาทด้วย
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ออกมาแจ้งว่า บ้านหลังนี้เป็นสินสมรส ไม่ใช่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คนเดียว แต่เป็นของสามี คือ นายอนุสรณ์ ด้วย โดยหลังจากนี้ทีมทนายของ คุณยิ่งลักษณ์ อาจจะยื่นเรื่องเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราวบรรเทาการยึดบ้านและทรัพย์สิน โดยอ้างว่าเป็นที่อยู่ของลูกและสามี แต่ทั้งนี้ต้องรอเอกสารอย่างเป็นทางการจากกรมบังคับคดีเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวไบรท์ทีวี โทรศัพท์สอบถาม นายนพดล หลาวทอง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การยึดบ้านซอยนวมินทร์ 111 นั้นคงไม่สามารถยึดได้ง่าย ๆ เนื่องจากเป็นสินสมรสไม่ใช่ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่เพียงผู้เดียว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารที่จะขอยื่นคำขอต่อศาลให้พิจารณาเรื่องนี้ใหม่อีกรอบ คาดว่าจะยื่นได้ไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์นี้
นอกจากนี้ นายนพดล ยังบอกด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว และไม่ได้เป็นห่วงหรือแสดงความกังวลใด ๆ เพียงแต่เน้นย้ำให้ตนนั้นดำเนินการตามช่องทางกฎหมายให้ถูกต้องเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม หลังจากกรมบังคับคดีได้ดำเนินการยึดบ้านซอยนวมินทร์ 111 ไปแล้วนั้น ทางนายนพดล ได้เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเอกสารใด ๆ ที่ส่งมาเพื่อแจ้งให้ทราบหรือติดที่บริเวณประตูหน้าบ้านแม้แต่ฉบับเดียว อีกทั้ง ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือ “น้องไปป์” ลูกชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านกับ นายอนุสรณ์ ผู้เป็นพ่ออย่างปกติ