ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ทำเนียบรัฐบาลเกิดเรื่องแปลก ๆ ขึ้น ตั้งแต่วันตรุษจีน เริ่มตั้งแต่หน้าตึกบัญชาการ อ่างบัวแตก ต่อมาก็พบว่ามีคนจุดธูปปริศนา 36 ดอก ใกล้กับปืนใหญ่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ล่าสุด วันนี้ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น ไล่หลังนายกรัฐมนตรี เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปเพียง 15 นาทีเท่านั้น ชนิดที่ว่าถึงแก่ชีวิตกันเลยทีเดียว
อีกา 2 ตัวกำลังรุมจิกตีนกพิราบตัวหนึ่งอยู่บริเวณทางลาด ด้านหน้าทางขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลจนนกพิราบตัวดังกล่าวตาย พร้อมกับรุมจิกกินซากศพนกพิราบจนไส้ทะลักและขนหลุดลุ่ย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเดินมาไล่อีกาและเก็บซากนกพิราบไปทิ้ง
สื่อมวลชนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา ว่า นกพิราบเป็นสัญลักษณ์ของความดีกำลังถูกอีกาที่เป็นสัญลักษณ์ของสิ่งไม่ดีรุมทำร้าย หรืออีกนัยหนึ่ง นกพิราบเป็นสัญลักษณ์ของสื่อมวลชนและยังเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพอีกด้วยกำลังถูกฝ่ายไม่ดีรุมโจมตี
และก่อนหน้านี้ ในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา มีรถเก๋งถอยชนอ่างบัวบริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 แตกเสียหาย ซึ่งตามความเชื่อของชาวจีน ในวันไหว้ของเทศกาลตรุษจีน ห้ามทำสิ่งของแตกหัก ชำรุด เสียหาย ซึ่งเป็น 1 ใน 12 ข้อห้ามที่ไม่เป็นมงคล
ทำให้โหรคนต่าง ๆ ออกมาวิเคราะห์ว่า ทางโหรศาสตร์ถือว่าเป็นเรื่องไม่ดี อาจเป็นลางบอกเหตุให้รัฐบาลรู้ว่าจะเกิดปัญหาทั้งจากประชาชนและความแตกแยกของคณะรัฐมนตรี
ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดโคมแดงแบบจีน หน้าประตูเข้า-ออกทำเนียบรัฐบาล 6 คู่ ทำให้สื่อตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการแก้เคล็ดที่อ่างบัวแตกเมื่อช่วงเช้าหรือไม่
นอกจากนี้ ก็มีคนเห็นธูปจำนวน 36 ดอกที่จุดแล้ว มาปักไว้บริเวณใต้ต้นดอกเข็มที่ปลูกล้อมรอบปืนใหญ่ ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล บางกระแสมองว่าเรื่องนี้รัฐบาลต้องพึ่งไสยศาสตร์ หรือ บางกระแสหนึ่งมองว่ามีผู้ไม่หวังดีทำพิธีบางอย่างและนำสิ่งไม่ดีมาใส่รัฐบาล แต่ความหมายของการจุดธูป 36 ดอกเพื่อขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่โหรภิญโญ ก็วิเคราะห์ว่า เป็นการแก้เคล็ด
แต่ทั้งหมดนี้นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ขอร้องว่าอย่าไปมองเป็นเรื่องของโหราศาสตร์ หรือมองในเรื่องของฮวงจุ้ย หรือเรื่องอื่นๆเพราะวันนี้เป็นยุคไทยแลนด์ 4.0 แต่ก็ไม่ได้ไปลบหลู่