อดีตคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร โพสต์เฟซบุ๊กจวกแหลก กกต. ปัจจุบัน เขียนกติกาการเลือกตั้งใหม่เป็นต้นเหตุของความวุ่นวาย ซัดแรง “สร้างกติกาที่พิกลพิการ” ปิดท้ายเจ็บแสบ “ประเทศไทยรับกรรมของความไม่แน่นอนทางการเมืองต่อไป”
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตผู้สมัครส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Somchai Srisutthiyakorn จวกกติการการเลือกตั้งที่ออกโดย กกต. ชุดปัจจบัน จวกยับเป็นข้อๆ ดังนี้
“ผลพวงจากการออกแบบกติกาที่พิกลพิการ”
เฒ่าผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย หวังผลเลิศจากการเขียนกติกา ยก กกต.ชุดเก่าออก สร้าง กกต.ชุดมหาเทพ เปลี่ยนระบบเลือกตั้งเป็นบัตรใบเดียว ให้เบอร์ผู้สมัครของพรรคแตกต่างกันไปในแต่ละเขต ให้พรรคเสนอชื่อคนมาเป็นนายกจากคนไม่เป็น ส.ส.ได้ หวังจะปฏิรูปการเมืองไทย แต่กลับกลายเป็นปัญหาสารพัดที่สร้างไว้กับบ้านเมือง
หนึ่ง กกต.อ่อนหัด จัดการเลือกตั้งวุ่นวายเป็นปัญหา นับแต่การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร การเลือกตั้งล่วงหน้า จนถึงวันเลือกตั้งจริง กลายเป็นที่วิพากย์วิจารณ์ในด้านประสิทธิภาพและความรับผิดชอบในการทำงาน จนถึงขึ้นเข้าชื่อกันไล่ถอดถอนจำนวนใกล้ล้านคนแล้ว
สอง บัตรเลือกตั้งใบเดียว ทำให้คนต้องตัดสินใจเด็ดขาดบนพื้นฐานของสถานการณ์การเมืองและการตัดสินใจเลือกข้าง มากกว่าสนใจนโยบายที่พรรคนำเสนอ ยิ่งพรรคหนึ่งบอก “ต้องการสงบ จบที่ลุง” อีกพรรคหนึ่งบอก “เอาลุงคืนไป” นั่นหมายถึง “เอาลุง หรือ ไม่เอาลุง” คือหัวใจของการรณรงค์ในสามวันสุดท้าย นโยบายไร้ค่า คุณสมบัติผู้สมัครไม่เกี่ยว “ลุง”คือศูนย์กลางของการตัดสินใจในการใช้สิทธิ์
สาม เบอร์พรรคแตกต่างกันทั้งประเทศ สร้างความวุ่นวายสับสน ทั้งผู้สมัคร ผู้เลือกตั้งและคนจัดการเลือกตั้ง ส่งบัตรผิด กาผิดเบอร์ ติดป้ายผิดที่ เจตนาของการให้คนจำผู้สมัครแทนการจำพรรคการเมือง แล้วเป็นไง ท้ายสุดคนไม่จำผู้สมัคร แต่ไปกาชื่อพรรคโดยไม่สนใจผู้สมัคร
สี่ ให้พรรคเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี พอมีพรรคหนึ่งเสนอคนที่เป็นนายกฯปัจจุบันโดยไม่มีข้อห้าม แถมกติกายังให้มีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศและยังมี ม.๔๔ อยู่ในมือ ความได้เปรียบเสียเปรียบไม่เป็นธรรมในการเลือกตั้งก็เกิดขึ้น เป็นที่วิพากย์วิจารณ์ว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรม เพราะ ครม.มีอำนาจในการอนุมัติงบประมาณโครงการต่างๆเพื่อหาเสียงในโค้งสุดท้ายเอาใจประชาชนได้มากมาย แบบนี้ไม่เคยมีในการเลือกตั้งครั้งใดในประวัติศาสตร์
ห้า ผลพวงของการออกแบบนำไปสู่รัฐบาลผสมที่ไม่มีเอกภาพในการทำงานปรากฏให้เห็นนับแต่วันยังไม่จัดตั้งรัฐบาล ไม่ว่าฝ่ายใดจะได้จัดตั้งรัฐบาล คะแนนล้วนปริ่มน้ำ พปชร.อาจตั้งนายกได้เพราะมี ๒๕๐ ส.ว.หนุน แต่ประชุมสภา ส.ส.ห้ามป่วย ห้ามตาย เพื่อไทยอาจรวมเสียงเกินครึ่งสภาได้ แต่ โหวตนายกฯไม่ได้เพราะไม่ได้เสียง ส.ว.สนับสนุน เมื่อเลือกจะออกแบบกติกาแบบนี้ ประเทศไทยก็ต้องรับกรรมของความไม่แน่นอนทางการเมืองต่อไป
คนที่ร่างกติกา รู้ตัวบ้างหรือยัง
สมชัย ศรีสุทธิยากร
๒๗ มีนาคม ๒๕๖๒”