วานนี้ (1 ก.ย.) 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายสมพงษ์ ร่วมกิจกรรมเสวนา “ความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ” โดยนายสมพงษ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ตั้งแต่มีการรัฐประหาร ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนมาเป็นอันดับ 1 ที่ไม่ได้รับการแก้ไข ผู้มีอำนาจมุ่งเน้นเพียงแต่จะสืบทอดอำนาจเท่านั้น ในการประชุมสภาฯ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี ผู้แทนได้มีโอกาสพูดคุยปรึกษาหารือกันถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนตลอด พูดกันมา 2-3 เดือนแล้วยังไม่หมด เพราะปัญหาของพี่น้องประชาชนมีมากเหลือเกิน ตลอด 5 ปีก็ไม่เคยมีใครมาเหลียวแล
หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยจะไม่มีการคบค้ากับประเทศที่มีการยึดอำนาจ ดังนั้นจึงไม่มีการติดต่อเจรจาการค้าใดๆ กับประเทศไทย และการค้าขายที่ต้องพึ่งต่างชาติก็หายไปด้วย ตนมีโอกาสลงพื้นที่ไปตามที่ต่างๆ พบว่าการค้าขายซบเซา เงียบเหงา แทนที่จะคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีเงินเข้ามา แต่รัฐบาลกลับใช้เงินอย่างแหลกลาญ แจกเงินโดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา
นายสมพงษ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจที่ย่ำแย่นี้ ทุกอย่างก็เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญด้วย คนร่างรัฐธรรมนูญร่างมาจากใบสั่งของผู้มีอำนาจ ออกกฎระเบียบต่างๆ มาทำลายสิทธิมนุษยชนโดยสิ้นเชิง รัฐธรรมนูญมีปัญหาจริงๆ ดังนั้นต้องแก้ให้ใช้กับทุกคนได้อย่างเท่าเทียมกัน
“ผมไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญทุกอย่าง แต่ผมเพียงอยากทำให้สมบูรณ์แบบ และให้ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่ใช่แค่คน 70 กว่าคนออกแบบให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ไขยาก เราจึงหวังพึ่งพี่น้องประชาชน ซึ่งเราจะพยายามรณรงค์เรื่องนี้ให้มากที่สุด เพื่อให้พี่น้องประชาชนเข้าใจให้มากขึ้น เพราะผมเชื่อว่าหากให้มีการทำประชามติ พี่น้องประชาชนจะต้องอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง เพราะหากยังปล่อยให้มีรัฐธรรมนูญเช่นนี้ต่อไป อนาคตย่ำแย่แน่ แล้วลูกหลานจะอยู่กันอย่างไร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าว
อ่านข่าว Bright Today