“สมศักดิ์” ลั่นไม่สนใจเสียงวิจารณ์ หลังยอมรับรธน.เอื้อประโยชน์พวกเรา แจงแค่มองพรรคเล็ก-พรรคใหม่ได้ประโยชน์ ปลุกปชช.ล้างศรัทธาพรรคเก่า ยันพปชร.ไม่ได้เปรียบใคร
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวว่า ภายหลังนำกลุ่มสามมิตรเข้าพรรค พปชร.ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. จากนี้จะไม่มีกลุ่มสามมิตรอีกแล้ว ขณะนี้อดีตแกนนำกลุ่มสามมิตรจะพร้อมทำงานร่วมกับพรรค พปชร. โดยเชื่อว่าจากความรู้ความสามารถและประสบการณ์ทางการเมือง จะเป็นประโยชน์ต่อการหาเสียงให้พรรคอย่างมาก แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับมอบหมายงาน เนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ยังไม่อนุญาตให้พรรคการเมืองหาเสียงได้ ทั้งนี้ ไม่คิดว่าพรรค พปชร.จะได้เปรียบคู่แข่งอย่างที่มีเสียงวิจารณ์ เพราะมีทั้งได้เปรียบและเสียเปรียบ เนื่องจากเป็นพรรคใหม่ที่ยังไม่ค่อยรู้จัก หากต้องการได้ ส.ส.จำนวนมาก ผู้สมัครจะต้องใช้ความขยันเดินเข้าหาประชาชนทุกพื้นที่เพื่อชี้แจงแนวนโยบายของพรรค ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายประชารัฐของรัฐบาลปัจจุบัน
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกลยุทธ์ในการหาเสียง ต้องให้ความสำคัญกับการล้างความเชื่อที่ประชาชนมีต่อพรรคการเมืองเก่าที่ยังได้รับความนิยม ต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่าที่แล้วมาประเทศไทยมีปัญหาอย่างไร อาทิ เกิดม็อบในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กระทั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกฯ ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จึงมีม็อบ 2 ขั้วการเมือง ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้นต้องทำรัฐประหาร เป็นคนกลางแก้ไขปัญหา
“วันนี้ยังเร็วไปที่จะที่ประเมินว่า พปชร.ได้ ส.ส.เท่าไหร่ จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ส่วนที่บอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรานั้น ว่ายอมรับว่าพูดจริง แต่หมายถึงพรรคการเมืองขนาดกลาง และพรรคการเมืองขนาดเล็ก รวมถึงพรรคการเมืองหน้าใหม่ที่ไม่มีฐานเสียงมาก่อน การพูดเป็นการปลุกใจให้บรรดาผู้สมัครหน้าใหม่ๆ ถึงแม้ประเด็นนี้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ผมไม่ได้ไปสนใจอะไร และไม่คิดจะไปตอบโต้ให้เป็นประเด็นยืดยาว”นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ ย้ำด้วยว่า ที่บอกว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 เอื้อประโยชน์แก่พวกเรา หมายถึงรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ร่างโดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) เอื้อประโยชน์แก่ทุกพรรค เพราะทุกคะแนนเสียงมีความหมาย ไม่ถูกทิ้งเหมือนรัฐธรรมนูญในอดีต โดยคะแนนจาก ส.ส.เขตสามารถมาสมทบเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ ขณะเดียวกันก็อาจไม่เป็นดีต่อพรรคการเมืองใหญ่ เนื่องจากถ้าได้ ส.ส.เขตจำนวนมาก จะส่งผลให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อน้อยด้วย