“สมศักดิ์-สุริยะ-อนุชา” หอบสมาชิกซบ”พลังประชารัฐ”แล้ว โวได้เก้าอี้ส.ส.แน่ ลั่นสลาย “สามมิตร”ทันที ย้ำไม่มีตั้งมุ้งในพรรค ยังกั๊กหนุน”บิ๊กตู่” ขึ้นนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการเปิดรับสมัครสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีกลุ่มสามมิตร ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายอนุชา นาคาศัย 3 แกนนำหลัก ได้นำสมาชิกของกลุ่มกว่า 60 คน เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐอย่างเป็นทางการ ที่โรงแรมแชงกรีล่า โดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่าทุกคนที่เข้ามาในพลังประชารัฐถือเป็นกลุ่มเดียว คือพลังประชารัฐ ไม่มีกลุ่มใดกลุ่มนึง ส่วนในแต่ละพื้นที่ไม่มีปัญหาการสรรหาผู้เหมาะสมเป็นตัวแทนพรรค นอกจากนี้ขอปฏิเสธว่าไม่ได้มีการเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคพลังประชารัฐ ภายหลังมีคำสั่งมาตรา 44 ให้ขยายเวลาในการจัดเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต. ) เพราะพรรคมีความพร้อมและมีการเตรียมการมาอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายสุริยะ ยืนยันว่า หลังการสมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้ว บทบาทของตนและนายสมศักดิ์จะเป็นแค่สมาชิกพรรค แต่ขึ้นอยู่กับผู้บริหารจะมอบหมายให้ดำเนินการอะไร ซึ่งจะมีการสลายกลุ่มสามมิตรทันที ทและจะไม่มีการตั้งมุ้งในพรรคแน่นอน มั่นใจว่าพรรคจะมีความเอกภาพแม้จะหลายกลุ่มมาร่วมงานกัน ขณะเดียวกันขอความเป็นธรรมที่ถูกมองว่ากลุ่มสามมิตรมีแต่กลุ่ม ส.ส.คนรุ่นเก่า เพราะความจริงแล้วมีการผสมผสานคนทุกรุ่น ส่วนจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ยังบอกไม่ได้เพราะขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง และถือเป็นอำนาจการตัดสินใจของผู้บริการพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันกลุ่มสามมิตรไม่ได้อยู่ใต้บังคับบัญชาของทหารด้วย
ขณะที่นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ได้รับเลือกจากพรรคที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง เชื่อว่าจะได้เป็น ส.ส.ทั้งหมดเพราะมีความพร้อมทั้งตัวบุคคลและนโยบาย และการสนับสนุนจากพรรค รวมถึงผลงานของรัฐบาลที่พรรคจะสานต่อไป ดังนั้นหากผู้สมัครขยันก็มีโอกาสเป็น สส.สูง ไม่ใช่เฉพาะคนที่มาจากกลุ่มสามมิตรเท่านั้นเข่นกัน
นายอนุชา นาคาศัย กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ มั่นใจว่าหลังเลือกตั้งพรรคพปชร. จะได้จำนวนส.ส.เกินร้อย เนื่องจากนโยบายที่นำเสนอดีและตรงใจประชาชน ผู้สมัครของพรรคมีคุณภาพ และมีอุดมการณ์ร่วมกันทำงานรับใช้ประชาชน โดยไม่กังวลว่าพปชร. จะถูกมองเป็นพรรคทหาร เพราะทุกอย่างผ่านการเลือกตั้ง และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน