วานนี้ (1 ก.ย.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และอดีตประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) กล่าวในรายการ “หัวใจไม่หยุด ‘เต้น’” เผยแพร่ทางแฟนเพจ “นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ว่า
‘สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยวันนี้ ยังคงเป็นการต่อสู้กันระหว่าง 2 ฝ่ายคือเสรีนิยมกับอนุรักษ์นิยม มี 2 ขั้วเท่านั้นนะครับ
ส่วนขั้วที่ 3 ขั้วที่ 4 อย่างที่พยายามสร้างวาทกรรมกัน เช่น สู้กับระบบรัฐสภา สู้กับระบอบทักษิณ ไม่มีจริงล่ะครับ เป็นเพียงการทำลายความชอบธรรมของระบบรัฐสภา เพื่อเปิดพื้นที่ให้กับอำนาจเผด็จการแทรกแซงเข้ามา แล้วปลายทางก็คือการสมประโยชน์กันทางการเมือง
รัฐบาลชุดนี้เข้ามาด้วยกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คน ทั้งเรื่องความชอบธรรมของกติกาที่เขียนมาได้เปรียบคู่แข่งขันมากมายก่ายกอง การจัดสรรผลประโยชน์ทางการเมือง
ปัญหาเศรษฐกิจที่ 5 ปีก็แก้ไม่ได้ แล้วก็ใช้คนชุดเดิมเข้ามาทำอีกครั้งภายใต้แนวทางแบบเดิม
หรือแม้กระทั่งเรื่องการกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ถ้าเป็นรัฐบาลทั่วๆ ไป ชี้ไว้ได้เลยครับว่าไม่ข้ามพ้น 1 ปี มีอันเป็นไปแหงๆ
แต่รัฐบาลนี้เค้าเกิดจากอำนาจคณะรัฐประหาร มีเครือข่ายอนุรักษ์นิยมคอยเป็นหลังพิงแน่นหนา
ในสนามการเมืองถูกมองว่าเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิง นักการเมืองจึงถูกมองว่าเป็นคนสารพัดพิษ แต่ในขณะเดียวกัน แม่ทัพขุนทหารทุกประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ เขาก็เติบโตขึ้นมาท่ามกลางคำขวัญสงครามว่า การศึกไม่หน่ายเล่ห์
แล้วท่านคิดดูก็แล้วกันนะครับ เมื่อใดก็ตามที่แม่ทัพนายกองเข้ามาเป็นนักการเมืองเอง ระดับของเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงมันจะซับซ้อนซ่อนเงื่อนขนาดไหน
-แต่ช่วงนี้รัฐบาลก็โดนจี้อ่วมอยู่นะ?
อย่าไปคิดว่าฝ่ายตรงข้ามเขากำลังตั้งรับจะหนียะย่าย พ่ายจะแจ ไม่มีนะครับ
ดูดีๆ เขากำลังพยายามตั้งหลักตอบโต้ในทุกรูปแบบ
มีตัวละครอย่างปูเค็ม คอยตามประกบธนาธร
ตัวละครอย่างปารีณา คอยตามประกบช่อ พรรณิการ์
ล่าสุดก็ตัวละครอย่างไพบูลย์ นิติตะวัน ประกาศท้าฟันกับนักวิชาการทุกคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ เป็น ‘ซามูไรไพบูลย์’ เห็นไหมครับ
อย่าไปคิดว่า 3 คนนี้เค้าเคลื่อนไหวไปตามฤทธิ์ยา ไม่ใช่นะครับ แต่ละคนระดับซุปเปอร์ไซย่าทั้งนั้น เพราะว่าผลของมันคือการลดเสรีในการปฏิบัติ แล้วก็สกัดกั้นความเคลื่อนไหว ตลอดจนการแสดงความคิดเห็นของบุคคลากรในฝ่ายประชาธิปไตย
.
-เครือข่ายดูแน่นเหนียวแต่เนื้อในเขากลมเกลียวกันหรือเปล่า?
ถ้าเจาะมองเข้าไปในระดับความสัมพันธ์ของพรรคการเมืองในฝ่ายรัฐบาลเวลานี้ ชัดเจนนะครับว่าหลายพรรคที่มายืนร่วมกันไม่ได้มีจุดเชื่อมโยงเป็นอุดมการณ์ทางการเมือง แต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ เป็นเรื่องอำนาจทั้งสิ้น
คือพลังประชารัฐกับประชาธิปัตย์ มือข้างหนึ่งจับกัน มืออีกข้างถือมีดไว้คนละเล่ม
อ่านข่าว Bright Today