นิด้าโพล เผยประชาชนอยากให้รัฐบาลแก้ไขเรื่องเศรษฐกิจ ชี้นโยบายประชานิยมทำให้คนเคยตัวเรียกร้องไม่หยุด
เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “จะเรียกร้องอะไรจากนายกรัฐมนตรี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18-19 กันยายน 2562 จากประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,266 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับสิ่งที่จะเรียกร้องจากนายกรัฐมนตรี และสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาชนเคยชินกับสิ่งที่เคยได้
จากการสำรวจ เมื่อถามถึงสิ่งที่จะเรียกร้องเป็นเรื่องแรก หากพบนายกรัฐมนตรี พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 44.95 ระบุว่า ขอให้ช่วยแก้ไขความเดือดร้อนจากพิษเศรษฐกิจ รองลงมา ร้อยละ 15.80 ระบุว่า ไม่เรียกร้องอะไรเลย , ร้อยละ 13.35 ระบุว่า ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากภัยทางธรรมชาติ
ร้อยละ 4.35 ระบุว่า ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติด , ร้อยละ 3.63 ระบุว่า ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ , ร้อยละ 3.55 ระบุว่า อยากให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ร้อยละ 2.92 ระบุว่า ขอให้รัฐแจกเงินเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน , ร้อยละ 2.29 ระบุว่า แก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร , ร้อยละ 2.21 ระบุว่า ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมทางสังคม , ร้อยละ 1.97 ระบุว่า ขอให้ช่วยแก้ไขรัฐธรรมนูญ , ร้อยละ 1.50 ระบุว่า ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ
ร้อยละ 3.24 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน จัดการระบบข้าราชการใหม่ พัฒนาระบบการศึกษาไทย เพิ่มสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ เพิ่มการจ้างงาน เพิ่มอาชีพ ลดปัญหาการว่างงาน สร้างความสงบเรียบร้อยให้แก่บ้านเมือง เร่งแก้ไขปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้ และแก้ไขปัญหาเรื่องการคมนาคม เช่น การสร้างถนน ขณะที่บางส่วนระบุว่า อยากขอให้นายกรัฐมนตรีควบคุมอารมณ์และคำพูด และร้อยละ 0.24 ระบุว่า ไม่มีความเห็น/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีที่ว่า “ประชาชนเคยชินกับสิ่งที่เคยได้ โดยไม่สนใจว่าจะถูกหรือผิด มีการเรียกร้องอย่างต่อเนื่องเหมือนทุกวันนี้” พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 52.84 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะประชาชนได้รับความเดือดร้อนจริง ๆ และเป็นสิทธิของประชาชนที่จะเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลเอาใจใส่ให้มากกว่านี้ ขณะที่บางส่วนระบุว่า นายกรัฐมนตรีไม่สมควรกล่าวแบบนี้กับประชาชน
รองลงมา ร้อยละ 19.51 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะประชาชนยังรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ประชาชนบางกลุ่มเอาแต่ได้ เห็นแก่ตัว ชอบความสบาย ไม่รู้จักปรับตัว และไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตนเอง ขณะที่บางส่วนระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถูกต้องแล้ว เนื่องจากนิสัยคนไทยบางกลุ่มชอบเรียกร้องมากเกินไป
ร้อยละ 15.09 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะระดับการศึกษาของแต่ละคนไม่เท่ากัน ย่อมมีข้อถกเถียงโต้แย้งกันอยู่แล้ว บางกลุ่มก็เป็นตามที่นายกรัฐมนตรีกล่าว แต่บางกลุ่มก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร ขณะที่บางส่วนระบุว่า ประชาชนเดือดร้อนจริง ๆ และสามารถเรียกร้องสิทธิที่ควรจะได้
ร้อยละ 9.40 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะประชาชนบางกลุ่มเป็นแบบนั้นจริง ๆ เพราะเคยได้รับกับสิ่งที่รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยปฏิบัติตามกันมาแบบนี้จนเกิดความเคยชิน ขณะที่บางส่วนระบุว่านายกรัฐมนตรีได้กล่าวถูกต้องแล้ว และร้อยละ 3.16 ระบุว่า ไม่มีความเห็น/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุด เมื่อถามผู้ที่ระบุว่า “เห็นด้วย” “ค่อนข้างเห็นด้วย” และ “ไม่มีความเห็น/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ” กับคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ “ประชาชนเคยชินกับสิ่งที่เคยได้ โดยไม่สนใจว่าจะถูกหรือผิด มีการเรียกร้องอย่างต่อเนื่องเหมือนทุกวันนี้” พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 32.76 ระบุว่า ประชาชนเคยตัวไม่รู้จักปรับตัวช่วยเหลือตัวเอง
รองลงมา ร้อยละ 24.38 ระบุว่า ต้นเหตุมาจากนโยบายประชานิยมของทุกรัฐบาล , ร้อยละ 13.79 ระบุว่า ความเดือดร้อนของประชาชนมีมากกว่าที่จะช่วยเหลือดูแลตัวเองได้ , ร้อยละ 12.07 ระบุว่า รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างเบ็ดเสร็จ , ร้อยละ 10.35 ระบุว่า ข้าราชการไม่ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ทำให้ประชาชนต้องเรียกร้องจากรัฐบาลอยู่เรื่อย ๆ และร้อยละ 6.65 ระบุว่า ไม่มีความเห็น/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ