วันที่ 9 มีนาคม 2563 นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชน ต้านคอร์รัปชั่น โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว “Veera Somkwamkid” ถึงองค์กรต้านคอร์รัปชั่น ระบุว่า..
“องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ที่ก่อตั้งในปี 2554 ตั้งขึ้นมาช่วงที่นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน(คปต.) ถูกผู้มีอำนาจรวมหัวกันถีบเข้าคุกเขมรเป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน ตั้งแต่ 29 ธ.ค.2553 – 1 ก.ค. 2557) ซึ่งสนับสนุนรัฐบาลประยุทธ์หายหัวไปไหนกันหมด สรุปแล้วจะตั้งขึ้นมาเพื่ออวยรัฐบาลเผด็จการทหารเป็นหลักใช่หรือไม่? กรณีคนของรัฐบาลหรือพรรคร่วมรัฐบาลถูกกล่าวหาว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต ประพฤติมิชอบ ทำให้รัฐและประชาชนได้รับความเสียหาย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ก็ยังเงียบเฉยไม่ทำอะไรเลย
ตัวอย่างเช่น กรณีของปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ถูกกล่าวหาว่าไปบุกรุก ยึดครอง ที่ดินของรัฐจำนวนนับพันไร่ เพื่อทำธุรกิจฟาร์มไก่ เมื่อเรื่องถูกเปิดโปงต่อสาธารณะ ก็เชื่อว่ามีอำนาจรัฐเข้าไปให้ความช่วยเหลือปารีณา จนคนทั้งประเทศพากันด่าเพราะทนต่อพฤติการณ์ชั่วร้ายไม่ไหว กรณีนี้ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ก็ปิดปากเงียบไม่ทำอะไร
กรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่นายกฯประยุทธ์ถูกเปิดโปงกลางสภาฯ มีข้อมูลของพรรคฝ่ายค้านหลายเรื่องที่น่าสนใจ แต่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ก็เงียบเฉย ไม่เข้าไปช่วยตรวจสอบขยายผล เพื่อเอาผิดกับผู้ที่กระทำความผิด
กรณีของรัฐมนตรีธรรมนัส อภิปรายตอบโต้ฝ่ายค้านในสภาฯ ว่าตนไม่ได้ติดคุกออสเตรเลียด้วยข้อหาค้าเฮโรอีน แต่ติดคุกเพราะนำแป้ง(พ่องงมัน)เข้าออสเตรเลีย กรณีนี้คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อคำพูดของธรรมนัส ที่สำคัญธรรมนัสถูกประชาชนรุมด่ากันทั้งประเทศ แต่ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เชื่อธรรมนัสใช่หรือไม่? เพราะเห็นเงียบไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น หรือออกมาช่วยตรวจสอบธรรมนัสแต่อย่างใด
กรณีล่าสุด มีการกักตุนหน้ากากอนามัย และมีชื่อของคณะทำงานรัฐมนตรีธรรมนัสคนหนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เป็นข่าวใหญ่โตทั้งบ้านทั้งเมือง องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ก็ยังเงียบเฉยอีกเช่นเคย
สรุปแล้วทำให้เชื่อว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เลือกที่จะต่อต้านคอร์รัปชันเป็นบางเรื่อง เอาแต่ที่สบายใจหรือตามใบสั่งของใครบางคนใช่หรือไม่? หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ก็สมควรยุบองค์กรฯไปเสียเถิด เสียดายเงินจากผู้ที่บริจาคเงินมาให้ทำงาน ทราบมาอย่างไม่เป็นทางการว่า องค์กรฯนี้ได้รับเงินสนับสนุนในการทำงานปีละหลายสิบล้านบาท มีเงินเดือนตอบแทนให้กับผู้ที่ช่วยทำงานรวมกันแล้วปีละหลายล้านบาท ไม่ทราบว่าทุกวันนี้บริษัทในเครือของ SCG ยังเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ให้กับองค์กรนี้อยู่อีกหรือไม่? ที่สำคัญไม่มีการเปิดเผยว่าหน่วยงานหรือบริษัทห้างร้านใดบ้าง ที่บริจาคเงินสนับสนุนในการทำงาน
ผู้ใดที่รู้ความจริงเบื้องลึกเบื้องหลังเกี่ยวกับองค์กรฯนี้ ก็ช่วยกันเอาข้อมูลมาเปิดเผยด้วยครับ คนไทยจะได้ตาสว่างกันเสียที”
