เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2564 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย อภิปรายชี้แจงกรณีการ จัดซื้อวัคซีน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ เตรียมให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แจ้งไปยัง อปท.ว่า สามารถซื้อวัคซีน 5 ชนิดที่อย.รับรองได้ แต่ต้องอยู่ในแผนของศบค. และติดต่อซื้อผ่านรัฐ
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาอปท.ต้องการเข้ามาช่วยดูแลสถานการณ์ป้องกันสกัดโควิด-19 ซึ่งตามกฎหมาย อปท.ให้ซื้อวัคซีนได้ เพราะเป็นการรักษาและฟื้นฟู เพียงแต่มีคำแนะนำจากผู้ตรวจการแผ่นดินไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นว่า การจัดหาวัคซีนระยะแรก เข้าใจดีที่ อปท.ต้องการช่วยเหลือเรี่องวัคซีน แต่มีรายละเอียดที่ต้องพิจารณา อาทิ อปท.บางแห่งมีงบ บางแห่งไม่มี รวมถึงการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ 70% ของประชากรนั้น หากให้อปท.จัดซื้ออาจเกิดความเหลื่อมล้ำ การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่อาจเกิดขึ้นได้แค่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ไม่ตรงกับเจตนากระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ไปพร้อมๆกันทั่วประเทศ
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติวัคซีน โควิด-19 ไปแล้ว 5 ราย ได้แก่
1.วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โดยบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด และที่ผลิตในประเทศโดย บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด
2.วัคซีนโคโรนาแวค ของบริษัท ซิโนแวค นำเข้าโดยองค์การเภสัชกรรม
3.วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน โดยบริษัท แจนเซ่น-ซีแลค จำกัด
4.วัคซีนโมเดอร์นา โดยบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด และล่าสุด
5.วัคซีนต้านโควิดของซิโนฟาร์ม ที่ผลิตจากประเทศจีน นำเข้าโดยบริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด
นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 ราย อยู่ระหว่างทยอยยื่นเอกสารพร้อมประเมินคำขอขึ้นทะเบียนต่อเนื่อง ได้แก่ วัคซีนโควัคซีน โดยบริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด และวัคซีนสปุตนิค วี โดยบริษัท คินเจน ไบโอเทค จำกัด