จากสถานการณ์โรค ฝีดาษลิง ในไทย หลังจากพบหนุ่มชาวไนจีเรีย ที่จ.ภูเก็ต หลบหนีการรักษาจากประเทศไทย ก่อนถูกจับกุมที่ประเทศกัมพูชา นั้น
จากสถานการณ์ดังกล่าว ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการด่วน ถึงผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ให้เข้าประชุมเพื่อตอบสนองต่อการประกาศขององค์การอนามัยโลก ยกระดับเตือนภัยโรค ฝีดาษลิง (Mokeypox) เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC)
ขณะที่เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า นายอนุทินกล่าวว่า จะมีการหารือร่วมกับอธิบดีกรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) และผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เพื่อเตรียมแผนรับมือ และแผนเชิญเหตุโรค ฝีดาษลิง
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้ตอบสนองการพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค.65 เป็นต้นมาแล้ว โดยให้สถานพยาบาลทุกแห่งคัดกรองผู้ป่วยที่เข้าข่ายสงสัยโรคฝีดาษลิงตามนิยาม ส่งตัวอย่างเชื้อตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ(แล็บ) มาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ ชายชาวไนจีเรียที่เป็นผู้ป่วยฝีดาษวานรที่พบรายแรก ไทยได้รับแจ้งจากทางตำรวจและสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตว่า พบสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่ชายแดนประเทศกัมพูชา ค่อนข้างชัดเจนว่าหลบหนีออกทางช่องทางธรรมชาติ
ซึ่งไทย ได้ประสานไปยังทางการกัมพูชาแล้วในการติดตามผู้ป่วยรายดังกล่าว ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้วที่มีความร่วมมือสาธารณสุขชายแดนจังหวัดสระแก้วกับจังหวัดบันเตียเมียนเจย
ส่วนข้อกังวลว่าผู้ป่วยรายนี้จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างหรือไม่นั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขไทย ขอย้ำว่าโรคฝีดาษวานรไม่ได้ติดต่อกันได้ง่ายอย่างโควิด การติดต่อต้องเป็นการสัมผัสใกล้ชิดมากๆ และอาการโรคส่วนใหญ่ไม่ได้มีความรุนแรง ซึ่งมาตรการป้องกันตนเองจากโควิด ยังสามารถใช้ป้องกันโรคฝีดาษวานรได้ โดยเฉพาะการเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ป้องกันการสัมผัสผู้ที่มีผื่น ตุ่มน้ำ ตุ่มหนองตามผิวหนัง และไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY