กองทัพบก แจงมีนายพล-พันเอกพิเศษเกษียณอยู่ บ้านหลวง เกือบ 100 คน พร้อมเปิด 3 แนวทางแก้ไขปัญหา
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงแนวทางแก้ไขปัญหาบ้านพักของกำลังพลชั้นผู้น้อยที่เกษียณไปแล้ว แต่ยังเดือดร้อนเรื่องที่พักอาศัย ว่า ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป โดยจัดลำดับความเดือดร้อน ทั้งคนที่อยู่ในราชการและเกษียณอายุราชการไปพร้อมๆกันด้วย สำหรับการแก้ไขปัญหาเรื่องบ้านพักของกำลังพล มี 3 แนวทาง คือ 1.ต้องสร้างบ้านพักเพิ่ม ซึ่งทำอย่างไรก็ไม่เพียงพอ และยังสิ้นเปลืองงบประมาณ 2.การเช่าบ้านตามสิทธิ์ของแต่ละคน และ 3.โครงการบ้านสวัสดิการ ซึ่งเดิมเป็นโครงการที่ดี สำหรับผู้ที่ไม่มีบ้านหลวง เพราะเป็นการออมเงินเพื่อไปซื้อบ้านเป็นของตนเองสามารถอยู่ยาวไปจนกระทั่งเขาเกษียณไปแล้ว
“แต่ปัจจุบันเกิดปัญหาเรื่องนี้ขึ้น ก็ต้องมาดูว่าเกิดจากอะไร เป็นที่คน หรือระบบ หากสามารถแก้ไขได้ ก็ต้องเดินหน้าต่อ แต่ถ้ากองทัพบกมองแล้วว่าเป็นปัญหาก็ต้องยกเลิก แต่ความจริงโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี จึงต้องขอทำความเข้าใจว่าบางครั้งเรื่องที่ดีอาจจะเดินไม่ได้ เพราะสังคมมองว่าเป็นเรื่องทุจริต โกง ผลประโยชน์ของนายทหารผู้ใหญ่ ซึ่งความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น หลายโครงการเป็นโครงการที่ดีให้กำลังพลชั้นผู้น้อยมีบ้านเป็นของตัวเอง” พล.อ.ณัฐพล กล่าว
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ขณะนี้กำลังให้หน่วยสรุปเข้ามาว่ามีจำนวนทหารเกษียณอายุราชการที่อยู่บ้านหลวงเท่าไร ซึ่งขีดเส้นว่าเดือนมี.ค.นี้ต้องเรียบร้อย โดยเราแจ้งไปว่าขอให้ส่งคืนด้วย แต่ขอให้เข้าใจว่าในสังคมไทยนั้นยืดหยุ่นได้ แต่ต้องขีดเส้นเป็นระยะๆไป ในบางกรณีที่ต้องผ่อนผันก็ต้องมีกรอบเวลา ซึ่งในอดีตยอมรับว่ามีการผ่อนผันหลายปี อย่างไรก็ตาม จำนวนบ้านพักทั้งหมดในส่วนกลางมีไม่เกิน 100 หลัง สำหรับระดับชั้นนายพล พันเอกพิเศษ ซึ่งระหว่างดำเนินการคาดว่าจะมีคนทยอยออกไปเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนใหญ่ที่เกิดปัญหาคือทหารที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด และเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ส่วนที่อยู่ในต่างจังหวัดไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเขามีบ้านอยู่แล้ว ในส่วนของ ส.ว.ยังไม่เห็นรายชื่อว่ามีอยู่จำนวนเท่าไร
ส่วนการตั้งคำถามของสังคม ว่า เหตุใดนายทหารระดับสูงซึ่งมีเงินเดือนสูง จึงไม่มีกำลังทรัพย์ซื้อบ้านของตนเอง แต่มาอยู่บ้านหลวง พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ต้องไปถามแต่ละคน ซึ่งอาจมองได้ว่า ยังมีงานที่ต้องรับใช้ประเทศชาติอยู่ จึงอยากฝากสื่อมวลชนว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะนายพลที่ยังอยู่บ้านหลวงก็กระทบกับบ้านของชั้นนายพลด้วยกัน ไม่ใช่นายพลจะไปอยู่บ้านนายสิบ จนทำให้ทหารชั้นผู้น้อยไม่มีบ้านอยู่ ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน